รีวิวร้าน Pizzeria Mazzie พาร์ค เลน เอกมัย

ร้านพิซซ่าสไตล์นิวยอร์ก เอกลักษณ์สุดเท่ห์มีเตาอบใหญ่มากตั้งอยู่ในร้านที่สั่งตรงมาจากอิตาลี พิซซ่าทุกถาดทำให้ดูแบบสดๆ แป้งทำเอง ซอสมะเขือเทศโฮมเมด และ ทางร้านได้ใช้ไม้คุณภาพดีที่สุดเพื่ออบพิซซ่าให้อร่อยหอม ลองสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ

คุณ Jonathan Spearman เจ้าของร้านได้พิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบที่ตัองสดและสะอาดในทุกวันด้วยตัวเอง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้ทานอาหารที่ดีที่สุดจากร้านเค้า

พิซซ่าแต่ละถาดทำสดทุกถาด นวดแป้ง ใส่ซอส ใส่เครื่องให้เราดูเลย จุดเด่นอยู่ที่แป้งที่ทำเอง แป้งบางกรอบ ไม่เหนียว ทานแล้วไม่ติดคอ อร่อยแบบต้นตำรับ

เมนูมาแล้วต้องสั่ง

• Pepperoni ราคา 450 บาท

• No.3 ราคา 470 บาท

• Brooklyn Classic Cheese ราคา 350 บาท

ทางร้านยังมีหน้าพิซซ่าให้เลือกอีกมากมาย ทั่งซอสแดงและซอสขาว และเมนูอื่นอีกหลายอย่างด้วยนะ ลองมาชิมกัน วันนี้พิมกินสามถาด เมนูอื่นก็ไม่ไหวแล้ว แต่ละถาดใหญ่มาก ^^

ราคาเครื่องดื่ม

• น้ำเปล่า ขวดละ 80 บาท

• กาแฟ 80/90 บาท

(ดูราคาในเมนูได้เลยจ้า)

บรรยากาศในร้านมีหลายมุมให้เลือกนั่ง จะเป็นโต๊ะ หรือหน้าบาร์ดูเชฟทำพิซซ่าให้ดู ก็ไม่รู้สึกอึดอัด เกาอี้แบบสูงนั่งสบาย นั่งเมาท์กับเพื่อนชิวสุด พนักงานดูแลดีด้วยน่า

* ภาพเพิ่มเติมจากทางร้าน *

ใครที่ชอบทานพิซซ่า ร้านมาซิ พิซซาเรีย เป็นอีกร้านที่พิมซีพีเคแนะนำค่ะ อร่อยจริง ไม่โกหก ก่อนมาโทรมาจองโต๊ะก่อนน่า ร้านเค้าเต็มทุกวัน เดี๋ยวไม่มีโต๊ะนั่งนะ

รายละเอียดเพิ่มเติม

เวลาเปิดปิด 17.30-22.30

ศุกร์-เสาร์ 17.30-24.00

เบอร์โทร 02 060 8822

https://www.facebook.com/pizzeriamazzie/

พิกัด โครงการพาร์คเลน(Park Lane) สุขุมวิท63

เที่ยวมาเลเซีย(KL) ง่ายนิดเดียว

“ข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน เพราะตอนนี้ Traveloka จัดแคมเปญ EPIC SALE แคมเปญลดราคาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยมอบส่วนลดสูงสุดถึง 80% จองได้ตั้งแต่ 25-29 กันยายน 2019 และเดินทางได้ถึงกลางปี 2020 เลย กดรับส่วนลด และดูรายละเอียด คลิก

https://www.traveloka.com/th-th/promotion/epicsaleth

จองตั๋วเครื่องบินมาเลเซีย https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-malaysia

Kuala Lumpur หรือเรียกสั้นๆ KL ประเทศมาเลเซีย เป็นอีกเมือง อีกประเทศที่พิมซีพีเคประทับใจ ประเทศเพื่อนบ้านที่มาง่าย ค่าเงินไม่แพง คนอัธยาศัยดี เดินได้รอบๆมีต้นไม้ลัอมรอบ หรือถ้าขี้เกียจ ประเทศเค้ามีแก๊บ(Grab Taxi) คอยพาไปที่เที่ยว ในราคาไม่แพง ไปไหนก็สะดวก

วันนี้พิมจะพาไปเที่ยวรอบๆห้างหาของอร่อยทานกัน ห้างดังของ KL มีชื่อว่า Pavilion ข้างในห้างก็จะคล้าย ไอคอน สยาม ของบ้านเรา หรูหรา ของแบรนด์ดังเต็มห้าง แต่เอาจริงๆๆกลับมาช๊อปปิ้งบ้านเราก็ได้ ราคาเท่ากันเลย

ข้างๆก็จะมีอีกห้างชื่อ Isetan ก็จะขายของญี่ปุ่นพวกอาหารญี่ปุ่น ของใช้ญี่ปุ่น เสื้อผ้าแบรนด์ญี่ปุ่นบ้าง และมี ของฝากของมาเลเซีย ขนม ช๊อคโกแลต กาแฟ ซื้อได้ที่นี่

ร้านอาหารที่จะพาไปทาน ชื่อร้านว่า Jambo King เป็นอาหารฟิวส์ชั่น ที่หลักๆก็ขายอาหารมาเลเซียนะแหละ

บรรยากาศน่านั่ง อยู่ในห้องแอร์เย็นๆ เพราะอยู่ในตัวห้าง Pavilion ชั้น1

อาหารที่ต้องสั่ง ก็จะเป็น ” Roast Pork Curry Noodle” รสชาติคล้ายๆข้าวซอยบ้านเรา ราคาก็มีตามขนาดแล้วแต่เราเลือก

ชามใหญ่อยู่น่า ขนาดเล็กแทบกินไม่หมด เครื่องดื่ม มาแล้วก็ลองน้ำผลไม้บ้านเค้าสักหน่อย รสชาติเฟื่องๆออกเปรี้ยวนิดๆนะ คล้ายๆน้ำฝรั่ง ค่ะ

ราคาอาหารก็ไม่แพง มาทานในห้างหรือจะทานแบบ Street food ราคาก็ไม่ต่างกันมากค่ะ แล้วแต่เพื่อนๆชอบแบบไหน

ร้าน Jumbo King

พิกัด ชั้น1 ห้าง Pavilion, Kuala Lumpur.

รายละเอียดเพิ่มเติม

https://www.facebook.com/126SeafoodVillage/videos/450819498734317?sfns=mo

ใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้ ลองแวะตามรอยพิมซีพีเคได้นะจ๊ะ ยังมีอีกตั้งหลายร้านที่อยากลอง ไว้มาเคแอลคราวหน้าจะมานำเสนอของอร่อยหาง่าย ไม่ต้องเดินทางลำบาก มาฝากเพื่อนๆอีก แน่นอน

#Pimcpk แนะนำแต่ของดีดี

เที่ยวเวียดนาม แบบชิวๆ

“ข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน เพราะตอนนี้ Traveloka จัดแคมเปญ EPIC SALE แคมเปญลดราคาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยมอบส่วนลดสูงสุดถึง 80% จองได้ตั้งแต่ 25-29 กันยายน 2019 และเดินทางได้ถึงกลางปี 2020 เลย กดรับส่วนลด และดูรายละเอียด คลิก

https://www.traveloka.com/th-th/promotion/epicsaleth

จองตั๋วเครื่องบินเวียดนาม

https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-vietnam

เที่ยวเวียดนามง่ายๆ เดินทางก็สะดวก ไม่ไกลและไม่แพง สถานที่ท่องเที่ยวก็มีให้ดูมากมาย มาเที่ยวคราวนี้พิมสนใจ อยากไปดูวิหารของทางเค้าหรือมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนาม ที่นี่ห้ามพลาด

วิหารวรรณกรรม ภาษาเวียดนามเรียกว่า วันเหมียว (Van mieu) สร้างขึ้นเพื่อเป็นโรงเรียนของพวกขุนนาง และยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติแห่งแรกของเวียดนาม และยังเป็นสถานที่ใช้สอบจองหงวนในสมัยโบราณ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นกว็อกช็อกเวียน (Quoc Hoc Vien) บริเวณโดยรอบมีบ่อน้ำ และต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่ม ศาลเทพเจ้าขงจื้อ ซึ่งมีการวางแผนผังมาอย่างดี และภายในวิหารจะมีแผ่นหินจารึกชื่จอหงวน ซึ่งปัจจุบันได้เป็นวัดที่นักเรียนนักศึกษาชาวเวียดนามมักจะมามาขอพรในการสอบ

ตอนไปก็จะมีนักเรียนที่เรียนจบ มาถ่ายรูป น่ารักมาก

สถานที่กว้างใหญ่ เดินดูรอบๆๆ มีมุมถ่ายรูปเยอะอยู่ค่ะ

ถ้าต้องการรู้ประวัติอย่างละเอียด ทางวิหารมีไกด์แต่ไม่แน่ใจราคาเท่าไหร่ แต่เห็นเค้าเดินฟังเป็นกลุ่มๆ แต่ตอนพิมไปไม่ได้ใช้ แค่เดินๆดูรอบๆ

ศิลาจารึกเต่าหิน จะมีโดยรอบ รูปแบบมีการผสมผสานเวียดนามกับจีน

เดินไปอีกหน่อย เค้าก็มีร้านขายของที่ระลึกราคาไม่แพง แต่ละชิ้นน่ารักๆ

ราคาค่าเข้า 30,000 ดอง

เวลาปิด-เปิด ทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 07.30 – 17.30 น. , เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 07.30 – 20:30 น.

ที่ตั้ง 58 Quoc Tu Giam, Van Mieu, Dong Da, Hanoi

เพื่อนๆท่านใดมีแผนจะมาเวียดนาม ที่นี่เป็นอีกที่ที่เราไม่ควรพลาด ไว้พิมซีพีเคจะมาเล่าที่อื่นของเวียดนามอีกนะ คราวนี้มาแบบกระทันหัน ยังมีอีกหลายที่ที่อยากไปมาก

#Pimcpk แนะนำแต่ที่ดีดี

พาไปเที่ยวมาเก๊า 9พิกัด ไปกับทัวร์สนุกมากเวอร์

มาเก๊า  เมืองเล็กๆ น่ารักน่าเที่ยว  ด้วยเสน่ห์ของเมืองที่มีวัฒนธรรมแบบผสมผสานระหว่างโปรตุกีสและจีน  โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและอาคารบ้านเรือนอันเป็นลักษณะเฉพาะตัวแบบจีนผสมยุโรป  พร้อมกลิ่นอายความเก่าแก่ดั้งเดิมอันทรงเสน่ห์ อยู่ไม่ไกลจากบ้านเรา  เดินทางสะดวก  ค่าครองชีพไม่แพง  แถมยังเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีที่เที่ยวดีๆ ซ่อนอยู่เพียบเลย การไปเที่ยวมาเก๊าจะสะดวกสบาย หากได้เดินทางไปเที่ยวกับทัวร์ ไม่ต้องเตรียมตัววางแพลนอะไรมาก ใครยังไม่เคยเดินทางเที่ยวต่างประเทศกับทัวร์ เราแนะนำ ทัวร์ครับ (Tourkrub) เว็บไซต์ที่รวบรวมทัวร์ที่ดีที่สุดไว้ให้คุณ ซึ่งก็มีแพ็คเก็จทัวร์มาเก๊าให้เลือกไปเที่ยวเพียบเลย แต่ตอนนี้ใครพร้อมแล้วก็ไปส่องที่เที่ยวมาเก๊ากับเราได้เลย

จองทัวร์มาเก๊า  กับ  ทัวร์ครับ


1. จัตุรัสเซนาโด (Senado Square)
อาคารบ้านเรือนสไตล์โคโรเนียลหลากหลายสีสัน  บนทางเดินอิฐสุดคลาสสิค  ในบรรยากาศคล้ายบ้านเมืองในยุโรปที่แสนโรแมนติก  อยู่ไม่ไกลจากซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s) ใจกลางตัวเมืองมาเก๊า  อันเป็นแลนด์มาร์คสุดฮอตของเมือง  แหล่งรวมตัวของวัยรุ่น  และนักท่องเที่ยว  รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร  ร้านกาแฟ  และสินค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลก  และจัตุรัสแห่งยังเป็นหนึ่งในมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) อีกด้วยพิกัด : Senado Square


2. โบสถ์เซนต์โดมินิก (St. Dominic’s Church)

หนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของมาเก๊า สร้างตั้งแต่ปี 1587 โบสถ์คาทอลิกสไตล์บารอคผสมมาเก๊านีสสีเหลืองพาสเทล  ตัดขอบและตกแต่งด้วยปูนปั้นสีขาว  โดดเด่นด้วยบานประตูหน้าต่างสีเขียวพาสเทลสดใส  ถูกสร้างโดยบาทหลวงชาวสเปนนิกายโดมินิกัน  ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันกับจัตุรัสเซนาโด (Senado Square)  จัดเป็นโบสถ์คาทอลิกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองมาเก๊าพิกัด : St. Dominic’s Church

3. ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul’s)

ซากอาสนวิหารนักบุญเปาโล  ใจกลางคาบสมุทรมาเก๊า  ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญอันดับหนึ่งของเมืองมาเก๊า  ซากโบสถ์คาทอลิกขนาดใหญ่  ในสไตล์โปรตุเกสที่สวยงามอลังการ  ที่ยังคงเหลือไว้แค่เพียงซากกำแพงด้านหน้าและบันไดทางขึ้นโบรถส์เท่านั้น  แต่แม้เพียงจะเหลือซากประตูด้านหน้าเท่านั้น  แต่ยังทรงเสน่ห์และคงมนต์ขลังของกลิ่นอายความงดงามแต่เดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดีจนน่าประหลาดใจพิกัด : Ruins of St. Paul’s

 

4. เจ้าแม่กวนอิมกลางทะเล (Kun Iam Statue)
รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่  มีความสูงกว่า 20 เมตร  สีทองอร่ามสร้างจากสำริดสีเหลืองทอง  ยืนอยู่บนฐานรูปดอกบัวสีขาวด้านล่าง  ที่เป็นห้องสมุดและศูนย์การเรียบรู้  ตั้งเด่นเป็นสง่าและสวยงามอยู่ริมทะเล Outer Harbour ไม่ไกลจาก Dr. Carlos d’Assumpcao Park เป็นหนึ่งในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่มีผู้คนศรัทธามากที่สุดแห่งหนึ่งเลยพิกัด : Kun Iam Statue

 

5. วัดอาม่า (A-Ma Temple)
วัดอาม่า (A-Ma Temple) วัดเก่าแก่ที่สุดของเมืองมาเก๊า  สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง  ราว ๆ ปี ค.ศ. 1488 ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรมาเก๊า  ริมเชิงเขา  ด้วยสถาปัตยกรรมและการตกแต่งในแบบฉบับจีนแท้ ๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองเจ้าแม่มาจู่หรือเทพธิดาแห่งท้องทะเล  ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี 2005พิกัด : A-Ma Temple

 

6. เดอะเวเนเชี่ยน มาเก๊า (The Venetian Macua)
Entertainment Complex ขนาดใหญ่โตมโหฬาร   เป็นศูนย์รวบรวมความบันเทิงครบวงจรนถนน Estr. do Istmo มีตั้งแต่งโรงแรม ร้านอาหาร คาสิโน ร้านค้าแบรนด์ดัง และการแสดงโชว์ต่าง ๆ ไปจนถึงไฮไลท์ทีเด็ดอย่าง The Grand Canal Shoppes  คลองขนาดใหญ่ใจกลางห้างสรรพสินค้านับ 1,000 ร้าน  ที่สามารถล่องเรือกอนโดล่าในคลองจำลองแห่งนี้ได้อีกด้วย  ราวกับจำลองเมืองเวนิสมาไว้ใน เดอะเวเนเชี่ยน มาเก๊า (The Venetian Macua) แห่งนี้  โดยทั้งภายนอกและภายในตกแต่งในสไตล์อิตาลีสุดหรูหรา  เข้ากับบรรยากาศสุดอลังการแบบสุด ๆพิกัด : The Venetian Macua

 

7. มาเก๊าทาวเวอร์ (Macau Tower)
หอคอยสูงริมทะเล Outer Harbour  ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คอันเป็นไอคอนนิคของเมืองมาเก๊า  เปิดให้ใช้บริการตั้งแต่ปี 2001 ตัวหอคอย  มาเก๊าทาวเวอร์ (Macau Tower)  มีความสูงมากถึง 338 เมตร  โดยมีจุดชมวิวมุมสูง  หรือ Observation Deck บนชั้น 58 ที่ระดับความสูง 223 เมตร  แต่ยังไม่เท่านั้น  เพราะทีเด็ดไฮไลท์ของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้  อยู่ที่ชั้น 61 ซึ่งเปิดให้เป็นนักผจญภัยท้าทายความเสียวและความสูง  สามารถลองเดินไต่เวหานอกอาคาร  และเล่นบันจี้จั๊มพ์ได้อีกด้วยพิกัด : Macau Tower

 

8. หมู่บ้านวัฒนธรรม (A Ma Cultural Village)
หมู่บ้านวัฒนธรรมจีนขนาดใหญ่  ตั้งอยู่โดดเด่นบนภูเขาของเกาะโคโลอานี (Coloane) มีพื้นที่ถึง 7,000 ตารงเมตร  รายล้อมไปด้วยหมู่อาคารที่ถูกออกแบบตามแบบสถาปัตยกรรมจีนแท้ ๆ ที่ประดับตกแต่งลงรายละเอียดอย่างวิจิตรงดงามอลังการ  ประกอบไปด้วยวัดทินหัวและรูปปั้นเทพอาม่าที่ศักดิ์สิทธิ์  จึงทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ของนักท่องเที่ยวและชาวมาเก๊าพิกัด : A Ma Cultural Village

 

9. พิพิธภัณท์บ้านไทปา (Taipa Houses Museum)
หมู่บ้านไทปา (Taipa Village) เป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมเก่าแก่ทางตอนใต้ของมาเก๊า  ที่ยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนท้องถิ่นดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี  กับคาแร็คเตอร์สุดน่ารักอันเป็นเอกลักษณ์ของล้านเรือนสีเขียวพาสเทลอ่อน ๆ ที่เคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่า  ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ  ทั้งถนนคนเดิน  พิพิธภัณฑ์  วัดจีนโบราณ  โบสถ์สไตล์ยุโรป  และสวนสาธารณะบนพื้นที่เดียวกัน  พิกัดเช็คอินฮิป ๆ ที่ไม่ควรพลาด
พิกัด : Taipa Houses Museum

 

ถ้าใครยังไม่เคยไปเที่ยวกับทัวร์  ลองดูสักทีก่อนแล้วจะรู้ว่าดีเหมือนกันนะ  ที่ดีที่สุดคือ  ชิลล์มาก ๆ หมดห่วง  ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องการวางแผน  และเตรียมการใด ๆ เลย  เพราะเที่ยวกับทัวร์เค้าจัดการไว้ให้เราหมดแล้ว  …  ถ้าไม่เชื่อก็ต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเองนะ

 

โรงเรียนสอนทำอาหาร ‘Old Town Thai Cooking Studio’ โดย เชฟปู ปูริดา ธีระพงษ์

 “ความสุขของการทำอาหารคือการได้แบ่งปัน”

ด้วยเชื่อมั่นว่า “ความสุขของการทำอาหารคือการได้แบ่งปัน” เป็นแรงบันดาลใจให้ ‘เชฟปู – ปูริดา ธีระพงษ์’ เชฟหญิงแกร่ง ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านอาหาร ผู้เป็นที่รู้จักดีในฐานะเชฟผู้ชนะจากรายการเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย (Iron Chef Thailand) และผู้เข้าแข่งขันในรายการสงครามปลายจวัก (Kitchen War Thailand) ตัดสินใจเปิดโรงเรียนสอนทำอาหารไทย เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ ความสุข และเคล็ดลับการรังสรรค์อาหารไทยให้เลิศรส ขึ้นที่ย่าน ‘เจริญกรุง’ ย่านเมืองเก่าซึ่งถือเป็นถนนสายแรกของประเทศไทย ‘Old Town Thai Cooking Studio’ คือจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวสายชิม และคนที่มีใจรักในอาหาร อยากเรียนรู้ทั้งกรรมวิธีปรุงอาหาร และเรื่องราววัฒนธรรมกินอยู่อย่างไทยได้รสชาติ

 ‘Old Town Thai Cooking Studio’ ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 67 ใกล้กับวัดสุทธิวราราม อันเป็นย่านเมืองเก่าซึ่งแวดล้อมไปด้วยชุมชนตึกแถวอาคารพานิชย์ ซึ่งบางแห่งเป็นตึกโบราณมีอายุนับร้อยปี โดยตัวอาคารของโรงเรียนสอนทำอาหารของเรารีโนเวทปรับปรุงมาจากอาคารเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 50 ปี หากยังคงรักษาความขรึมขลังของสถาปัตยกรรมในยุคเก่าเอาไว้ ทั้งละแวกนี้ยังอุดมไปด้วยชุมชนของผู้ที่ทำการค้า ตลาด บรรยากาศในย่านนี้จึงอบอวลไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของเมืองเก่าที่ผสมผสานกับเมืองใหม่ได้อย่างร่วมสมัย รวมถึงร้านอาหารที่ส่งต่อสูตรอาหารเก่าแก่มาหลายชั่วอายุคน ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสและเรียนรู้

‘Old Town Thai Cooking Studio’ เป็นโรงเรียนสอนทำอาหารที่สามารถเปิดรับผู้เรียนได้คราวละ 12-20 ท่าน เรามีคลาสสอนทำอาหารที่ตอบโจทย์ความสนใจที่หลากหลาย ของทั้งนักท่องเที่ยวและชาวไทยผู้สนใจอยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะและศาสตร์การปรุงอาหารไทย ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดโดย ‘เชฟปู – ปูริดา ธีระพงษ์’ เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย ทั้งในด้านการสอนและการจัดการธุรกิจร้านอาหารไทย ผู้มีประสบการณ์อยู่ในแวดวงอาหารของไทยและระดับสากลยาวนานหลายสิบปี

นอกจากนักเรียนจะได้นั่งรถตุ๊กๆ ไป ‘Market Tour’ เพื่อสัมผัสกับ ‘ตลาดสดแสงจันทร์’ ในย่านเก่าแก่ของเจริญกรุงแล้ว ชั้นเรียนของเรายังประกอบไปด้วย 6 คลาส ซึ่งแต่ละคลาสยังประกอบไปด้วย 5 เมนูที่เข้ากับธีมนั้นๆ ที่ผู้เรียนสามารถเลือกลงทะเบียนได้ตามความสนใจ อันได้แก่

Old Town Thai – ด้วยเจริญกรุงอันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนของเรานั้น เป็นย่านเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เป็นถนนสายแรกที่สร้างตามแบบตะวันตกระหว่างปี พ.ศ. 2404 ถึง 2477 ทั้งยังมีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติของผู้อยู่อาศัย เมนูที่เรารวบรวมมานี้จึงได้รับแรงบันดาลใจและต้องการบอกเล่าเรื่องราวความเก่าแก่และหลากหลายของอาหารในละแวกนี้ เป็นต้นด้วย ปอเปี๊ยะทอด ลาบไก่ ผัดไทย ผัดเปรี้ยวหวาน และข้าวเหนียวมะม่วง

Thai Street Food – เมืองไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ ได้รับการยกย่องว่าเต็มไปด้วยอาหารข้างทางที่หลากหลายและมีสีสันมากที่สุด ซึ่งชาวต่างชาติสายชิมต่างก็มุ่งหวังจะเดินทางมาสัมผัสลิ้มรสกันสักครั้ง เมนูที่เรานำมาจัดรวมกันชุดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่ต่างชาติให้ความนิยม และรู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะสตรีทฟู้ดของไทย เช่น ส้มตำ ไก่สะเต๊ะ ผัดผักบุ้ง ผัดกะเพรา และข้าวเหนียวมะม่วง

Thai Favourite – เพราะเชื่อว่าคนชาติใดที่ได้ลิ้มรสอาหารไทย เป็นต้องติดอกติดใจกันทุกราย นอกจากรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ อาหารไทยยังถือเป็นสมบัติของชาติที่ตกทอดสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต ภูมิปัญญา ศิลปะวัฒนธรรม ผ่านทางอาหาร เราจึงอยากจะเป็นสื่อกลางในการนำเสนอรสชาติของอาหารจานเด็ดต่างๆ ของไทย ที่ได้รับความนิยม ผ่านทางเซตเมนูชุดนี้ของเรา และเมนูเด่นของไทยที่เลือกมาอยู่ในอาหารชุดนี้ ได้แก่ ปอเปี๊ยะทอด ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวานไก่ ข้าวผัดสับปะรด และกล้วยบวชชี

Thai Delicacy – อาหารไทยเป็นเครื่องแสดงถึงภูมิปัญญาและเอกลักษณ์ของชนชาติไทย อาหารไทยนั้นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละสูตร ซึ่งส่วนผสมที่หลากหลายของการปรุงรสของอาหารไทยผสมผสานจนรสชาติอาหารที่อร่อยกลมกล่อม ทำให้ผู้รับประทานรู้สึกพึงพอใจที่ได้ลิ้มอาหารเลิศรส เมนูชุดนี้ต้องการจะบอกเล่าให้เห็นถึงภูมิปัญญาด้านของอาหารไทย อาทิ ต้มข่าไก่ ยำวุ้นเส้น ผัดกระเพรากุ้ง ผัดผักบุ้งไฟแดง และ ทับทิมกรอบ

Thai Sam Rub – วัฒนธรรมคนไทยนับแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน เมื่อรับประทานอาหารมักจัดใส่ไว้ในสำรับเดียวกันเพื่อสะดวกในการรับประทาน ดังนั้นการกินอาหารไทยให้ได้รสชาติ สิ่งสำคัญคือการจัดสำรับให้ได้สมดุลของรสชาติ ความอร่อยก็จะบังเกิด เมนูสำหรับสำรับนี้ อาทิ ยำส้มโอ น้ำพริกเผาผักสด แกงเลียงกุ้งสด ผัดมะเขือยาว สังขยาฟักทอง

Grandma’s Recipe – ว่ากันว่าอาหารที่อร่อยที่สุด คืออาหารฝีมือคุณแม่หรือคุณยายที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น เพราะเราโตขึ้นก็จะยิ่งคิดถึงจความทรงจำในวัยเด็กมากยิ่งขึ้น ในเซตเมนูนี้เราจึงรวบรวมเมนูที่แม่ชอบทำให้กินตอนเด็กๆ หรือหากมีโอกาสก็ให้ลองทำอาหารให้คุณแม่กินบ้าง เซตเมนูแห่งความทรงจำอันแสนอบอุ่นนี้ ได้แก่ เมี่ยงคำ ยำถั่วพู ต้มข่าไก่ ข้าวผัดกระเพรา และขนมดอกจอก

เกี่ยวกับ ‘เชฟปู – ปูริดา ธีระพงษ์’

เชฟหญิงแกร่ง ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านอาหาร ผู้มีความสามารถในลำดับแถวหน้าของเมืองไทยที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงจากสื่อต่างๆ อย่าง Bangkok Post, Bangkok 101 และ China Daily พิสูจน์ความเก่งฉกาจในฐานะเชฟจากการเป็นเชฟผู้ชนะจากรายการเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย (Iron Chef Thailand) และผู้เข้าแข่งขันในรายการสงครามปลายจวัก (Kitchen War Thailand) ซึ่งทำให้เธอเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

เชฟปูเริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางธุรกิจอาหารอย่างจริงจังตั้งแต่เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วด้วยการเดินทางไปเรียนต่อที่ ทางด้าน Cookery and Hospitality Management  ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ควบคู่กับการทำงานไปด้วย ภายหลังเรียนจบและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ใช้ชีวิตพำนักอยู่ที่ออสเตรเลียนานถึง 12 ปี เคยทำงานเป็นทั้งเชฟประจำร้านอาหาร เชฟดูแลแคทเทอริ่ง เคยเปิดร้านอาหารของตัวเองภายใต้แบรนด์ Spice Lovers จนประสบความสำเร็จมาแล้ว ก่อนตัดสินใจกลับมาเมืองไทย เชฟปูเคยเป็นทั้ง Excutive Sous Chef และ Excutive Chef ดูแลโรงแรมดังๆ มาแล้วมากมาย อาทิ Radisson Plaza Phuket , ห้องอาหารไทยสุธารส ของ โรงแรม Muse ไปจนถึงเป็นเชฟใหญ่ของ The Berkeley Hotel Pratunam ซึ่งทำให้เธอได้มีประสบการณ์ในการเรียนรู้เรื่องการโอเปอเรชั่นครัวสำหรับโรงแรมขนาดใหญ่ซึ่งมีแขกมากกว่า 2,000 คน มาจนถึง ‘Osha’ ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งสไตล์โมเดิร์นชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาซึ่งเปิดสาขาทั้งในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเอเชียทีค

เชฟปูเชื่อว่าด้วยภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยที่สั่งสมกันมา ผนวกกับการเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม และทักษะด้านการครัวที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมนั้น ย่อมขยายความเป็นไปได้อันไม่สิ้นสุดให้กับอาหารไทย ด้วยใจรักในอาหารไทย และแสวงหาความท้าทายให้ชีวิตยังคงมีไฟอยู่เสมอ เชฟปูจึงได้เปิดโรงเรียนสอนทำอาหาร ‘Old Town Thai Cooking Studio’ ที่ซึ่งจะช่วยให้เธอสามารถแบ่งปันทั้งความรู้ ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญทางด้านอาหารไทย รวมถึงแบ่งปันความสุขในอาหารร่วมกับทุกคนที่สนใจอยากเรียนรู้ในสิ่งเดียวกันนี้กับเธอ

Old Town Thai Cooking Studio

ตั้งอยู่ที่ :  19/12-14 เจริญกรุง 67 ยานนาวา สาทร กรุงเทพฯ 10120

โทร. : 061 632 4551 หรือ 02 086 2463

อีเมล์ : oldtownthaicooking@gmail.com

Instagram : OldTownThaiCooking 

Facebook : OldTown Thai Cooking

ข้อมูลเพิ่มเติมและเช็กตารางเรียน : www.oldtownthaicooking.com