รีวิวทริปลำปาง ไม่ลำพัง พาขับรถเที่ยวทั่วลำปาง
อากาศแบบนี้ แพ็คของใส่กระเป๋าแล้วมุ่งหน้าขึ้นเหนือกันดีกว่า ใครที่กำลังตามหาพิกัดซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย แต่ก็ให้ฟีลเรียบง่าย ไม่อึกทึกหรือแออัดจนเกินไปนัก อยากชวนให้ปักหมุดลำปางกันดูจ้า แล้วแนะนำว่าให้จัดทริปขับรถเที่ยวจะชิลล์กว่า สะดวกสบายแถมยังได้ฟีลแบบ new normal ด้วยนะ ถ้าสนใจตามรอยทริปนี้ ลองไปมองหาตั๋วเครื่องบินลำปางราคาดีได้ที่ Traveloka เลยน้า ราคาประหยัด จัดทริปได้แบบไม่ปวดใจ ใครจะไปลำปางตอนนี้ต้องฉีดวัคซีนโควิดให้เรียบร้อยก่อนน้า แล้วอย่าลืมโหลดแอพฯ ‘ลำปางชนะ’ ไว้ด้วยล่ะ เอาละ … ออกสตาร์ทกันได้เลย!
รีวิวทริปขับรถเที่ยวลำปาง
ก่อนที่จะไปดูรีวิวที่เที่ยวลำปาง เรามาบอกเคล็ดลับการเดินทางเที่ยวลำปางกันสักหน่อยดีกว่า เพราะว่าที่เมืองลำปาง คุณสามารถจองรถเช่า หรือเช่ารถขับเที่ยวลำปาง ด้วยการจองล่วงหน้าในแอพ Traveloka จากนั้นกดเข้าไปจองรถเช่า แล้วรอรับที่สนามบินกันได้เลย
ทางไปจองรถเช่า หรือเช่ารถ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental
ขอเริ่มพาออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังพิกัดแรกอย่าง น้ำตกวังแก้ว ซึ่งหลายคนบอกว่านี่ละคือน้ำตกที่สวยที่สุดของจังหวัดลำปาง น้ำตกนี้แบ่งออกเป็นชั้นย่อยๆ ถึง 102 ชั้น โดยแบ่งเป็นชั้นใหญ่ๆ ได้ราวๆ 7 – 8 ชั้น มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินชมนกชมไม้กันในระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร ด้านบนสุดของน้ำตกนี้มีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าเย้าตั้งอยู่ด้วยนะ คนรักน้ำ รักป่า รักธรรมชาติ ไม่ควรพลาดจ้า ปักหมุดมาให้ไว
ชวนกันขับรถต่อมาอีกระยะใหญ่ๆ เพื่อมุ่งหน้าไป Blue Lagoon แห่งเมืองเหนืออย่าง หล่มภูเขียว บ่อน้ำสีฟ้าเทอควอยซ์ใสแจ๋วกลางผืนป่าเขียวขจี ที่เคยมีบางข้อสันนิษฐานกันว่าที่ตรงนี้อาจจะเคยเป็นปากปล่องภูเขาไฟในยุคอดีตด้วยนะ ว่ากันว่าเคยมีคนลองดำน้ำลงไปสำรวจด้านล่างแต่ก็ยังไม่เคยมีใครไปถึงก้นบ่อได้ เชื่อว่าที่นี่อาจจะลึกลงไปเกินกว่า 40 เมตรเลยเชียวละ ถึงจะน่าลงไปแหวกว่ายแค่ไหนก็ดูกันแต่ตาก็พอน้า จะได้เที่ยวกันแบบปลอดภัยจ้า มาถ่ายรูปชิลล์ๆ ก็พอ
แม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทนั้นจะมีน้ำตกให้ดูกันหลายแห่ง แต่หนึ่งพิกัดที่ไม่เหมือนใครก็คือ น้ำตกเกาฟุ นี่ละ เพราะนี่คือน้ำตกซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากฝีมือคนเพียงคนเดียวจ้า โดยผู้สร้างน้ำตกนี้คือนายเกาฟุ ซึ่งใช้เวลาถึง 30 ปี โดยมีเพียงจอบและเสียมในการเนรมิตน้ำตกนี้ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำสาธารณะของชุมชนที่ตนเองอยู่อาศัย ทำให้น้ำตกแห่งนี้มีน้ำไหลตลอดทั้งปีเลยนะ เราว่าเป็นอีกหนึ่งพิกัดสุด unseen ที่มาดูด้วยตาแล้วจะรู้สึกว่าน่าทึ่งจริงๆ
อีกพิกัดที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางสายผจญภัยทั้งหลาย ก็คือการมาชมความสวยของ ถ้ำผาไท นี่ละ เพราะนี่คือถ้ำที่มีการสันนิษฐานกันว่าเป็นถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากมีการค้นพบเถ้าภูเขาไฟอายุ 15 ล้านปีกันด้านในด้วยจ้า ถ้ำผาไทนั้นมีทางเดินลึกเข้าไปจากปากถ้ำประมาณ 1,150 เมตร มีลักษณะเป็นโถงขนาดใหญ่เกิดจากภูเขาหินปูนอายุไม่ต่ำกว่า 9 ล้านปี ด้านในมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามให้ชมหลายจุดเลยนะ สายแอดเวนเจอร์น่าจะถูกใจเชียว
หลังจากขับรถกันมาทั้งวัน การได้ไปนอนแช่น้ำร้อนที่ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน คือที่สุดแห่งความฟินเลยละ ถ้าแรงยังเหลือเดินเล่นตามทางที่มีขึ้นไปชมน้ำตกแจ้ซ้อนที่อยู่ด้านบนกันก่อนก็ยังได้ แล้วมาผ่อนคลายกันด้วยการนอนแช่น้ำร้อนท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ให้ฟีลออนเซ็นแบบไทยๆ ที่ชิลล์สุดๆ เชียวละ จะแช่บ่อรวมกันครึกครื้นดี หรือจะแช่บ่อส่วนตัวก็สงบสบาย ถ้าอยากนอนบ้านพักที่มีให้บริการก็ต้องติดต่อจองกันมาล่วงหน้าน้า แต่ถ้าอยากได้ฟีลแค้มปิ้งเค้าก็มีที่ให้กางเต็นท์กันได้ด้วยนะ นั่งรถมาเมื่อยๆ คือหายเหนื่อยเลยจ้า บอกไว้เลยว่าดี!
ถ้าอยากได้ฟีลการมานอนพักกลางผืนป่าเขียวขจีที่มีบรรยากาศแสนสงบและอากาศเย็นสบาย ลองขับรถจากบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนมาอีกราวๆ 14 กิโลเมตรก็จะได้มาเช็คอินกันที่ บ้านป่าเหมี้ยง หมู่บ้านเล็กๆ ในอ้อมกอดขุนเขาซึ่งมีบรรยากาศสุดสโลว์ไลฟ์ ที่นี่มีโฮมสเตย์เปิดให้บริการด้วยนะ ทุกหลังให้ฟีลสุดชิลล์และบรรยากาศที่อบอุ่นมาก ได้กินอาหารเมนูท้องถิ่นฝีมือลุงป้าย่ายาย ได้เดินเล่นนั่งเล่นสูดอากาศสดชื่นสบายปอดแบบสุดๆ เลยละ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่นี่จะพีคมากเพราะมีดอกเสี้ยวบานทั่วหมู่บ้านให้ดูกันด้วยน้า จองที่พักล่วงหน้าไว้เลยจ้า นี่คือพิกัดที่มาแล้วหลงรักทุกราย!
สำหรับสายธรรมชาติที่อยากสัมผัสความสวยยามเช้ากันแบบจัดหนักซะหน่อยนะ ขอชี้เป้าให้เลยว่า ดอยฟ้างาม คือหนึ่งพิกัดที่น่าสนใจ เพราะที่นี่มีทะเลหมอกแบบจัดหนักจัดเต็มให้ชมกันแบบจุกๆ เชียวละ แต่อาจจะต้องออกสตาร์ทกันเช้าหน่อยนะ เพราะจากจุดจอดรถยังต้องใช้เวลาเดินขึ้นสู่ยอดดอยกันเกือบ 2 ชั่วโมงจ้า ถ้าหากไม่อยากล้อหมุนกันตั้งแต่เช้ามืด แนะนำให้มากางเต็นท์นอนบนยอดดอยกันได้น้า ใครเป็นสายธรรมชาติตัวจริงน่าจะแฮปปี้ไม่น้อยเลยเชียว
จากน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน สำหรับคนที่ไม่ถนัดในการตื่นเช้ามากๆ หรือไม่อยากเดินทางไกล อยากชวนให้ไปดูความสวยรับอรุณกันใน วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ ดีกว่า เพราะใช้เวลาขับรถแค่ครึ่งชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นนะ แต่กว่าจะขึ้นไปชมความสวยที่จุดชมวิวบนยอดเขากันได้ ก็ไม่ง่ายจ้ะ เพราะต้องนั่งรถของทางวัดขึ้นไปราวๆ 30 นาที แล้วเดินขึ้นบันไดซึ่งสร้างไว้บนเขาต่อไปอีกเกือบๆ 300 ขั้นจ้า ฟังแล้วอย่าเพิ่งท้อนะ บอกเลยว่าพิกัดชมความงามยามเช้าทั้งสองแห่งน่ะคุ้มค่าความเหนื่อยแน่นอนจ้า เลือกอันที่คิดว่าอยากเห็นมากกว่าละกัน
จากวิวสุดปังในยามเช้า เราก็มุ่งหน้ากลับเข้าสู่ตัวเมืองลำปางกันอีกครั้ง ระหว่างทางเลยขอแวะ เหมืองแม่เมาะ กันซักหน่อย ช่วงปลายปีจะมีทุ่งดอกไม้สวยๆ ให้ดูกันด้วยนะ มาที่นี่มีทั้งสวน สกายวอล์ค และพิพิธภัณฑ์สุดทันสมัยให้ได้สัมผัสบรรยากาศที่หลากหลายกัน แถมเค้ายังมีกิจกรรมมันๆ ให้ลองเล่นเร่งอะดรีนาลินกันอีกหลายอย่างเลยละ รับรองว่าหายง่วงจ้า แถมยังมีมุมแจ่มๆ ให้ถ่ายรูปกันเพียบเลยนะ เป็นอีกพิกัดที่มาลำปางแล้วพลาดไม่ได้เลย
ขับรถมาอีกไม่นานนัก ก็จะมาถึงอีกแลนด์มาร์คที่อยากชวนให้แวะเช็คอินกัน ณ วัดพระแก้วดอนเต้า วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองลำปางมานับพันปี ในอดีตที่นี่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตตั้งแต่ปี พ.ศ.1979 ยาวนานต่อเนื่องมาอีก 32 ปี ก่อนจะมีการอัญเชิญองค์พระแก้วมรกตไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน ว่ากันว่าด้านในองค์เจดีย์นั้นเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุขององค์พระพุทธเจ้า แถมยังมีวิหารและองค์พระพุทธไสยาสน์เก่าแก่อายุนับพันปี มีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม และมีมุมสวยๆ อีกหลายมุมให้ชมกันเลยละ ลองมาแวะกันดูเน้อ
มาถึงเมืองลำปางทั้งที อีกพิกัดที่ต้องมาเช็คอินกัน ก็คือการมาเดินเล่นชมแสงสุดท้ายของวันที่ สะพานรัษฎาภิเศก อีกหนึ่งแลนด์มาร์คยอดฮิตที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงเมืองนี้เลยละ บอกเลยว่าช่วงเย็นน่ะสวยเด็ดขาดบาดใจ เพราะจะได้เห็นเงาสะพานทรงโค้งสีขาวทอดเงาลงบนแม่น้ำวัง พร้อมสีสันของท้องฟ้าด้านหลังที่สุดปังน่าประทับใจ ค่ำๆ หน่อยเค้าก็มีการเปิดไฟประดับให้ความสวยอีกอารมณ์นึงนะ ปักหมุดจ้า ไม่มาก็เหมือนไม่ถึงลำปางเลยละ เอาจริงๆ
สิ่งหนึ่งที่มาลำปางแล้วพลาดไม่ได้ ก็คือการไปเดินเล่นแบบช้อป ชม ชิลล์ กันที่ กาดกองต้า ถนนคนเดินสุดน่ารักของเมืองลำปางที่มีข้าวของวางขายกันมากมาย ทั้งของกิน ของใช้ ของฝาก หรือของที่ระลึกทั้งหลาย ทีเด็ดของถนนนี้อีกอย่างยังอยู่ที่อาคารบ้านเรือนรอบด้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านเก่าหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นไทย จีน ยุโรป พม่า เรียกว่าตั้งใจมาซื้อของก็ได้ ตั้งใจมาเดินเล่นก็เพลินเชียวละ ตลาดเค้ามีช่วงเย็นๆ วันเสาร์และอาทิตย์นะ เป็นหนึ่งแลนด์มาร์คที่ไม่อยากให้พลาดเลย
วันสุดท้ายในการแอ่วลำปาง เรายังคงคอนเซ็ปท์ตื่นเช้ากันอีกวันนะ เพราะเรามีจุดหมายอยู่ที่การไปลุ้นทะเลหมอกสวยๆ ในวิวแปลกตากันที่ วัดดอยพระฌาน วัดที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนาที่น่าตื่นตาตื่นใจ แถมยังตั้งอยู่ในทำเลสูงบนยอดเขา ซึ่งในวันที่อากาศเป็นใจเราก็จะได้เห็นทะเลหมอกแบบอลังการรอบด้านอีกด้วยนะ นอกจากได้มากราบองค์เจดีย์เก่าแก่นับร้อยปี ที่นี่ยังมีองค์พระใหญ่ไดบุตสึที่ชวนให้นึกถึงเมืองคามาคุระในญี่ปุ่นแบบสุดๆ อีกด้วยจ้า เป็นการตื่นเช้าที่คุ้มค่าสุดๆ เลยละ เชื่อเรา!
เรามุ่งหน้าขับรถกลับมาเช็คอินที่ วัดพระธาตุลำปางหลวง อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่มาถึงเมืองลำปางแล้วพลาดไม่ได้ เพราะที่นี่เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองของลำปางมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี และเป็นวัดไม้ที่ได้ชื่อว่างดงามและสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย นอกจากจะได้มากราบพระเกศาธาตุและพระอัฐิธาตุขององค์พระพุทธเจ้าแล้วนะ ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานองค์พระแก้วดอนเต้าหรือพระแก้วมรกต พระคู่เมืองลำปางด้วยจ้า ด้านในมีมุม Unseen สำหรับดูเงาพระธาตุกลับหัวที่เกิดจากการหักเหของแสงด้วยนะ ปักหมุดจ้า บอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!
ไหว้พระกันเสร็จสรรพ ก่อนเดินทางกลับเราก็ขอไปชิลล์กันที่ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย กันซักหน่อยดีกว่า ที่ศูนย์ฯ นี้มีโรงพยาบาลช้างซึ่งใช้ในการรักษาพยาบาลช้างเจ็บป่วยและดูแลลูกช้างคลอดใหม่ เราจึงจะได้เล่นกับบรรดาช้างน้อยน่ารักทั้งหลาย แถมยังจะได้ช้อปปิ้งของที่ระลึกที่ทำจากมูลช้าง ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ โปสการ์ด ซองจดหมาย และอีกหลายอย่างเลยละ เป็นอีกพิกัดที่ให้บรรยากาศผ่อนคลายชวนให้เพลินแบบสุดๆ เลยนะ ยิ่งใครมีเจ้าตัวเล็กมาด้วยรับรองว่าแฮปปี้แน่จ้า ลองแวะมาเน้อ
ก่อนบอกลาเมืองแห่งรถม้าและชามตราไก่ เราขอไปปิดท้ายกันด้วยการไปเดินเล่นที่ พิพิธภัณฑ์ธนบดี ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยทายาทของตระกูลธนบดีที่เป็นผู้ก่อตั้งโรงงานเซรามิกแห่งแรกของเมืองลำปางขึ้นมา ด้านในพิพิธภัณฑ์นั้นเก็บรวบรวมสารพัดรูปแบบของชามตราไก่ที่แปลกและหาดูจากที่ไหนไม่ได้เอาไว้เพียบเลยละ ถ้ามีเวลาอยากลองเวิร์คช็อปชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองซักชิ้นก็ยังได้นะ รับรองว่าจะเป็นการส่งท้ายทริปที่เพลินสุดๆ เลยเชียว
ลำปางเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครหลายอย่าง และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นในด้านธรรมชาติหรือวัฒนธรรม ในขณะที่เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย แต่ลำปางก็ยังคงมีมุมสงบไม่วุ่นวายพลุกพล่านให้เราได้นั่งชิลล์กันอยู่เป็นระยะ ใครชอบความสโลว์ไลฟ์แบบไม่ต้องสมบุกสมบัน จดลำปางลงลิสต์ไว้เลยจ้า เราว่าเมืองนี้มีทุกอย่างที่คุณตามหาอยู่แน่นอน