รีวิวทริปลำปาง ไม่ลำพัง พาขับรถเที่ยวทั่วลำปาง

รีวิวทริปลำปาง ไม่ลำพัง พาขับรถเที่ยวทั่วลำปาง

อากาศแบบนี้ แพ็คของใส่กระเป๋าแล้วมุ่งหน้าขึ้นเหนือกันดีกว่า ใครที่กำลังตามหาพิกัดซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย แต่ก็ให้ฟีลเรียบง่าย ไม่อึกทึกหรือแออัดจนเกินไปนัก อยากชวนให้ปักหมุดลำปางกันดูจ้า แล้วแนะนำว่าให้จัดทริปขับรถเที่ยวจะชิลล์กว่า สะดวกสบายแถมยังได้ฟีลแบบ new normal ด้วยนะ ถ้าสนใจตามรอยทริปนี้ ลองไปมองหาตั๋วเครื่องบินลำปางราคาดีได้ที่ Traveloka เลยน้า ราคาประหยัด จัดทริปได้แบบไม่ปวดใจ ใครจะไปลำปางตอนนี้ต้องฉีดวัคซีนโควิดให้เรียบร้อยก่อนน้า แล้วอย่าลืมโหลดแอพฯ ‘ลำปางชนะ’ ไว้ด้วยล่ะ เอาละ … ออกสตาร์ทกันได้เลย!

รีวิวทริปขับรถเที่ยวลำปาง

ก่อนที่จะไปดูรีวิวที่เที่ยวลำปาง เรามาบอกเคล็ดลับการเดินทางเที่ยวลำปางกันสักหน่อยดีกว่า เพราะว่าที่เมืองลำปาง คุณสามารถจองรถเช่า หรือเช่ารถขับเที่ยวลำปาง ด้วยการจองล่วงหน้าในแอพ Traveloka จากนั้นกดเข้าไปจองรถเช่า แล้วรอรับที่สนามบินกันได้เลย

ทางไปจองรถเช่า หรือเช่ารถ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental

ขอเริ่มพาออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังพิกัดแรกอย่าง น้ำตกวังแก้ว ซึ่งหลายคนบอกว่านี่ละคือน้ำตกที่สวยที่สุดของจังหวัดลำปาง น้ำตกนี้แบ่งออกเป็นชั้นย่อยๆ ถึง 102 ชั้น โดยแบ่งเป็นชั้นใหญ่ๆ ได้ราวๆ 7 – 8 ชั้น มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินชมนกชมไม้กันในระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร ด้านบนสุดของน้ำตกนี้มีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าเย้าตั้งอยู่ด้วยนะ คนรักน้ำ รักป่า รักธรรมชาติ ไม่ควรพลาดจ้า ปักหมุดมาให้ไว


ชวนกันขับรถต่อมาอีกระยะใหญ่ๆ เพื่อมุ่งหน้าไป Blue Lagoon แห่งเมืองเหนืออย่าง หล่มภูเขียว บ่อน้ำสีฟ้าเทอควอยซ์ใสแจ๋วกลางผืนป่าเขียวขจี ที่เคยมีบางข้อสันนิษฐานกันว่าที่ตรงนี้อาจจะเคยเป็นปากปล่องภูเขาไฟในยุคอดีตด้วยนะ ว่ากันว่าเคยมีคนลองดำน้ำลงไปสำรวจด้านล่างแต่ก็ยังไม่เคยมีใครไปถึงก้นบ่อได้ เชื่อว่าที่นี่อาจจะลึกลงไปเกินกว่า 40 เมตรเลยเชียวละ ถึงจะน่าลงไปแหวกว่ายแค่ไหนก็ดูกันแต่ตาก็พอน้า จะได้เที่ยวกันแบบปลอดภัยจ้า มาถ่ายรูปชิลล์ๆ ก็พอ

แม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทนั้นจะมีน้ำตกให้ดูกันหลายแห่ง แต่หนึ่งพิกัดที่ไม่เหมือนใครก็คือ น้ำตกเกาฟุ นี่ละ เพราะนี่คือน้ำตกซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากฝีมือคนเพียงคนเดียวจ้า โดยผู้สร้างน้ำตกนี้คือนายเกาฟุ ซึ่งใช้เวลาถึง 30 ปี โดยมีเพียงจอบและเสียมในการเนรมิตน้ำตกนี้ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำสาธารณะของชุมชนที่ตนเองอยู่อาศัย ทำให้น้ำตกแห่งนี้มีน้ำไหลตลอดทั้งปีเลยนะ เราว่าเป็นอีกหนึ่งพิกัดสุด unseen ที่มาดูด้วยตาแล้วจะรู้สึกว่าน่าทึ่งจริงๆ

อีกพิกัดที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางสายผจญภัยทั้งหลาย ก็คือการมาชมความสวยของ ถ้ำผาไท นี่ละ เพราะนี่คือถ้ำที่มีการสันนิษฐานกันว่าเป็นถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากมีการค้นพบเถ้าภูเขาไฟอายุ 15 ล้านปีกันด้านในด้วยจ้า ถ้ำผาไทนั้นมีทางเดินลึกเข้าไปจากปากถ้ำประมาณ 1,150 เมตร มีลักษณะเป็นโถงขนาดใหญ่เกิดจากภูเขาหินปูนอายุไม่ต่ำกว่า 9 ล้านปี ด้านในมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามให้ชมหลายจุดเลยนะ สายแอดเวนเจอร์น่าจะถูกใจเชียว

หลังจากขับรถกันมาทั้งวัน การได้ไปนอนแช่น้ำร้อนที่ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน คือที่สุดแห่งความฟินเลยละ ถ้าแรงยังเหลือเดินเล่นตามทางที่มีขึ้นไปชมน้ำตกแจ้ซ้อนที่อยู่ด้านบนกันก่อนก็ยังได้ แล้วมาผ่อนคลายกันด้วยการนอนแช่น้ำร้อนท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ให้ฟีลออนเซ็นแบบไทยๆ ที่ชิลล์สุดๆ เชียวละ จะแช่บ่อรวมกันครึกครื้นดี หรือจะแช่บ่อส่วนตัวก็สงบสบาย ถ้าอยากนอนบ้านพักที่มีให้บริการก็ต้องติดต่อจองกันมาล่วงหน้าน้า แต่ถ้าอยากได้ฟีลแค้มปิ้งเค้าก็มีที่ให้กางเต็นท์กันได้ด้วยนะ นั่งรถมาเมื่อยๆ คือหายเหนื่อยเลยจ้า บอกไว้เลยว่าดี!

ถ้าอยากได้ฟีลการมานอนพักกลางผืนป่าเขียวขจีที่มีบรรยากาศแสนสงบและอากาศเย็นสบาย ลองขับรถจากบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนมาอีกราวๆ 14 กิโลเมตรก็จะได้มาเช็คอินกันที่ บ้านป่าเหมี้ยง หมู่บ้านเล็กๆ ในอ้อมกอดขุนเขาซึ่งมีบรรยากาศสุดสโลว์ไลฟ์ ที่นี่มีโฮมสเตย์เปิดให้บริการด้วยนะ ทุกหลังให้ฟีลสุดชิลล์และบรรยากาศที่อบอุ่นมาก ได้กินอาหารเมนูท้องถิ่นฝีมือลุงป้าย่ายาย ได้เดินเล่นนั่งเล่นสูดอากาศสดชื่นสบายปอดแบบสุดๆ เลยละ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่นี่จะพีคมากเพราะมีดอกเสี้ยวบานทั่วหมู่บ้านให้ดูกันด้วยน้า จองที่พักล่วงหน้าไว้เลยจ้า นี่คือพิกัดที่มาแล้วหลงรักทุกราย!

สำหรับสายธรรมชาติที่อยากสัมผัสความสวยยามเช้ากันแบบจัดหนักซะหน่อยนะ ขอชี้เป้าให้เลยว่า ดอยฟ้างาม คือหนึ่งพิกัดที่น่าสนใจ เพราะที่นี่มีทะเลหมอกแบบจัดหนักจัดเต็มให้ชมกันแบบจุกๆ เชียวละ แต่อาจจะต้องออกสตาร์ทกันเช้าหน่อยนะ เพราะจากจุดจอดรถยังต้องใช้เวลาเดินขึ้นสู่ยอดดอยกันเกือบ 2 ชั่วโมงจ้า ถ้าหากไม่อยากล้อหมุนกันตั้งแต่เช้ามืด แนะนำให้มากางเต็นท์นอนบนยอดดอยกันได้น้า ใครเป็นสายธรรมชาติตัวจริงน่าจะแฮปปี้ไม่น้อยเลยเชียว

จากน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน สำหรับคนที่ไม่ถนัดในการตื่นเช้ามากๆ หรือไม่อยากเดินทางไกล อยากชวนให้ไปดูความสวยรับอรุณกันใน วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ ดีกว่า เพราะใช้เวลาขับรถแค่ครึ่งชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นนะ แต่กว่าจะขึ้นไปชมความสวยที่จุดชมวิวบนยอดเขากันได้ ก็ไม่ง่ายจ้ะ เพราะต้องนั่งรถของทางวัดขึ้นไปราวๆ 30 นาที แล้วเดินขึ้นบันไดซึ่งสร้างไว้บนเขาต่อไปอีกเกือบๆ 300 ขั้นจ้า ฟังแล้วอย่าเพิ่งท้อนะ บอกเลยว่าพิกัดชมความงามยามเช้าทั้งสองแห่งน่ะคุ้มค่าความเหนื่อยแน่นอนจ้า เลือกอันที่คิดว่าอยากเห็นมากกว่าละกัน

จากวิวสุดปังในยามเช้า เราก็มุ่งหน้ากลับเข้าสู่ตัวเมืองลำปางกันอีกครั้ง ระหว่างทางเลยขอแวะ เหมืองแม่เมาะ กันซักหน่อย ช่วงปลายปีจะมีทุ่งดอกไม้สวยๆ ให้ดูกันด้วยนะ มาที่นี่มีทั้งสวน สกายวอล์ค และพิพิธภัณฑ์สุดทันสมัยให้ได้สัมผัสบรรยากาศที่หลากหลายกัน แถมเค้ายังมีกิจกรรมมันๆ ให้ลองเล่นเร่งอะดรีนาลินกันอีกหลายอย่างเลยละ รับรองว่าหายง่วงจ้า แถมยังมีมุมแจ่มๆ ให้ถ่ายรูปกันเพียบเลยนะ เป็นอีกพิกัดที่มาลำปางแล้วพลาดไม่ได้เลย

ขับรถมาอีกไม่นานนัก ก็จะมาถึงอีกแลนด์มาร์คที่อยากชวนให้แวะเช็คอินกัน ณ วัดพระแก้วดอนเต้า วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองลำปางมานับพันปี ในอดีตที่นี่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตตั้งแต่ปี พ.ศ.1979 ยาวนานต่อเนื่องมาอีก 32 ปี ก่อนจะมีการอัญเชิญองค์พระแก้วมรกตไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน ว่ากันว่าด้านในองค์เจดีย์นั้นเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุขององค์พระพุทธเจ้า แถมยังมีวิหารและองค์พระพุทธไสยาสน์เก่าแก่อายุนับพันปี มีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม และมีมุมสวยๆ อีกหลายมุมให้ชมกันเลยละ ลองมาแวะกันดูเน้อ

มาถึงเมืองลำปางทั้งที อีกพิกัดที่ต้องมาเช็คอินกัน ก็คือการมาเดินเล่นชมแสงสุดท้ายของวันที่ สะพานรัษฎาภิเศก อีกหนึ่งแลนด์มาร์คยอดฮิตที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงเมืองนี้เลยละ บอกเลยว่าช่วงเย็นน่ะสวยเด็ดขาดบาดใจ เพราะจะได้เห็นเงาสะพานทรงโค้งสีขาวทอดเงาลงบนแม่น้ำวัง พร้อมสีสันของท้องฟ้าด้านหลังที่สุดปังน่าประทับใจ ค่ำๆ หน่อยเค้าก็มีการเปิดไฟประดับให้ความสวยอีกอารมณ์นึงนะ ปักหมุดจ้า ไม่มาก็เหมือนไม่ถึงลำปางเลยละ เอาจริงๆ

สิ่งหนึ่งที่มาลำปางแล้วพลาดไม่ได้ ก็คือการไปเดินเล่นแบบช้อป ชม ชิลล์ กันที่ กาดกองต้า ถนนคนเดินสุดน่ารักของเมืองลำปางที่มีข้าวของวางขายกันมากมาย ทั้งของกิน ของใช้ ของฝาก หรือของที่ระลึกทั้งหลาย ทีเด็ดของถนนนี้อีกอย่างยังอยู่ที่อาคารบ้านเรือนรอบด้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านเก่าหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นไทย จีน ยุโรป พม่า เรียกว่าตั้งใจมาซื้อของก็ได้ ตั้งใจมาเดินเล่นก็เพลินเชียวละ ตลาดเค้ามีช่วงเย็นๆ วันเสาร์และอาทิตย์นะ เป็นหนึ่งแลนด์มาร์คที่ไม่อยากให้พลาดเลย

วันสุดท้ายในการแอ่วลำปาง เรายังคงคอนเซ็ปท์ตื่นเช้ากันอีกวันนะ เพราะเรามีจุดหมายอยู่ที่การไปลุ้นทะเลหมอกสวยๆ ในวิวแปลกตากันที่ วัดดอยพระฌาน วัดที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนาที่น่าตื่นตาตื่นใจ แถมยังตั้งอยู่ในทำเลสูงบนยอดเขา ซึ่งในวันที่อากาศเป็นใจเราก็จะได้เห็นทะเลหมอกแบบอลังการรอบด้านอีกด้วยนะ นอกจากได้มากราบองค์เจดีย์เก่าแก่นับร้อยปี ที่นี่ยังมีองค์พระใหญ่ไดบุตสึที่ชวนให้นึกถึงเมืองคามาคุระในญี่ปุ่นแบบสุดๆ อีกด้วยจ้า เป็นการตื่นเช้าที่คุ้มค่าสุดๆ เลยละ เชื่อเรา!

เรามุ่งหน้าขับรถกลับมาเช็คอินที่ วัดพระธาตุลำปางหลวง อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่มาถึงเมืองลำปางแล้วพลาดไม่ได้ เพราะที่นี่เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองของลำปางมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี และเป็นวัดไม้ที่ได้ชื่อว่างดงามและสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย นอกจากจะได้มากราบพระเกศาธาตุและพระอัฐิธาตุขององค์พระพุทธเจ้าแล้วนะ ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานองค์พระแก้วดอนเต้าหรือพระแก้วมรกต พระคู่เมืองลำปางด้วยจ้า ด้านในมีมุม Unseen สำหรับดูเงาพระธาตุกลับหัวที่เกิดจากการหักเหของแสงด้วยนะ ปักหมุดจ้า บอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!

ไหว้พระกันเสร็จสรรพ ก่อนเดินทางกลับเราก็ขอไปชิลล์กันที่ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย กันซักหน่อยดีกว่า ที่ศูนย์ฯ นี้มีโรงพยาบาลช้างซึ่งใช้ในการรักษาพยาบาลช้างเจ็บป่วยและดูแลลูกช้างคลอดใหม่ เราจึงจะได้เล่นกับบรรดาช้างน้อยน่ารักทั้งหลาย แถมยังจะได้ช้อปปิ้งของที่ระลึกที่ทำจากมูลช้าง ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ โปสการ์ด ซองจดหมาย และอีกหลายอย่างเลยละ เป็นอีกพิกัดที่ให้บรรยากาศผ่อนคลายชวนให้เพลินแบบสุดๆ เลยนะ ยิ่งใครมีเจ้าตัวเล็กมาด้วยรับรองว่าแฮปปี้แน่จ้า ลองแวะมาเน้อ

ก่อนบอกลาเมืองแห่งรถม้าและชามตราไก่ เราขอไปปิดท้ายกันด้วยการไปเดินเล่นที่ พิพิธภัณฑ์ธนบดี ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยทายาทของตระกูลธนบดีที่เป็นผู้ก่อตั้งโรงงานเซรามิกแห่งแรกของเมืองลำปางขึ้นมา ด้านในพิพิธภัณฑ์นั้นเก็บรวบรวมสารพัดรูปแบบของชามตราไก่ที่แปลกและหาดูจากที่ไหนไม่ได้เอาไว้เพียบเลยละ ถ้ามีเวลาอยากลองเวิร์คช็อปชิ้นงานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองซักชิ้นก็ยังได้นะ รับรองว่าจะเป็นการส่งท้ายทริปที่เพลินสุดๆ เลยเชียว

ลำปางเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครหลายอย่าง และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นในด้านธรรมชาติหรือวัฒนธรรม ในขณะที่เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย แต่ลำปางก็ยังคงมีมุมสงบไม่วุ่นวายพลุกพล่านให้เราได้นั่งชิลล์กันอยู่เป็นระยะ ใครชอบความสโลว์ไลฟ์แบบไม่ต้องสมบุกสมบัน จดลำปางลงลิสต์ไว้เลยจ้า เราว่าเมืองนี้มีทุกอย่างที่คุณตามหาอยู่แน่นอน

“หม่าน ฟู่ หยวน คิทเช่น” สร้างสรรค์เมนูสุดกรอบ ใหม่ !!! “หมูกรอบชาชูสไตล์ฮ่องกง” เนื้อนุ่มฉ่ำ หนังกรอบฟู อร่อย…เต็มปากเต็มคำ

“หม่าน ฟู่ หยวน คิทเช่น” สร้างสรรค์เมนูสุดกรอบ

ใหม่ !!! “หมูกรอบชาชูสไตล์ฮ่องกง” เนื้อนุ่มฉ่ำ หนังกรอบฟู อร่อย…เต็มปากเต็มคำ

ต้อนรับการเปิดให้บริการแบบทานที่ร้าน ภัตตาคารอาหารจีน “หม่าน ฟู่ หยวน คิทเช่น” (MAN FU YUAN KITCHEN) สร้างสรรค์เมนูสุดกรอบ ขอแนะนำ ใหม่ !!! “หมูกรอบชาชูสไตล์ฮ่องกง” เนื้อนุ่มฉ่ำ หนังกรอบฟู พร้อมจัดเต็มเอาใจนักกิน – คนรักหมูกรอบ ด้วยเมนูที่หลากหลาย กับโปรฯ อร่อยสุดคุ้ม (สำหรับบริการแบบทานที่ร้านเท่านั้น) โดยมีให้เลือกตั้งแต่ หมูกรอบชาชูสไตล์ฮ่องกง ขนาดเล็ก (4 ชิ้น) ราคาจานละ 255 บาท และขนาดใหญ่ (6 ชิ้น) ราคาพิเศษ 345 บาท (จากปกติจานละ 375 บาท), เมนูอาหารจานเดียว : ข้าวหรือบะหมี่หมูกรอบชาชูสไตล์ฮ่องกง ราคาพิเศษ 179 บาท (จากปกติจานละ 199 บาท), ไปจนถึง เมนูอาหารชุด : ชุดข้าวหรือชุดบะหมี่หมูกรอบชาชูสไตล์ฮ่องกง (แต่ละชุดเสิร์ฟพร้อมขนมจีบกุ้งผสมหมูและซุปเกี๊ยวจัมโบ้) ราคาพิเศษ 279 บาท (จากปกติชุดละ 299 บาท) ที่ หม่าน ฟู่ หยวน คิทเช่น สาขา เอ็มควอเทียร์ (ชั้น 8 โซนเฮลิกซ์ควอเทียร์) และ สาขาใหม่ ! สามย่านมิตรทาวน์ (ชั้น G) ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2564 ติดตามข้อมูลข่าวสาร หรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม คลิกแฟนเพจหม่านฟู่หยวนคิทเช่น : www.facebook.com/ManFuYuanKitchen

 

หมายเหตุ : ราคาโปรโมชั่นนี้ไม่รวมค่าบริการและภาษี

#หมูกรอบชาชูสไตล์ฮ่องกงหม่านฟู่หยวนคิทเช่น
#เนื้อนุ่มฉ่ำ #หนังกรอบฟู #อร่อยเต็มปากเต็มคำ

10 ที่เที่ยวเขาใหญ่ สูดโอโซนให้เต็มปอด

ใครกำลังหาที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ บรรยากาศดีๆ สูดโอโซนได้เต็มปอด ต้องที่นี่เลย “เขาใหญ่” ที่พักเขาใหญ่ก็ดี มีตัวเลือกให้แบบเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นที่พักเขาใหญ่แนวธรรมชาติ ปราสาทแบบเจ้าหญิง หรือแม้กระทั่งแบบนอนเต้นท์ได้ฟีลเหมือนตั้งแคมป์ นอกจากนั้นที่เขาใหญ่ก็ยังมีที่เที่ยวเขาใหญ่ตรึม ไปกับเพื่อนกับครอบครัวก็ได้หมด แต่ทีนี้ใครยังไม่รู้ว่าจะเที่ยวไหนได้บ้าง มาดูตรงนี้กัน เพราะเราจะพาไปรู้จักกับ 10 ที่เที่ยวเขาใหญ่ที่ฟินเว่อร์ บรรยากาศดี ใครจะไปก็กดจองที่พักเขาใหญ่ตรงนี้ที่ Traveloka กันก่อน หลังจากที่จองที่พักแล้วไปลุยกับที่เที่ยวเขาใหญ่กันเลย

1. ฟาร์มโชคชัย

เรียกว่าเป็นที่เที่ยวเขาใหญ่สุดคลาสสิคที่ๆ ใครก็ต้องไป เพราะที่นี่เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย ทั้ง รับประทานอาหาร เวิร์คช้อปทำไอศกรีม กินนม ชมวัว ดูโชว์สัตว์ ชมไร่ชมสวน แวะซื้อของฝาก บอกเลยว่า ฟาร์มโชคชัย คือสถานที่ท่องเที่ยวเขาใหญ่ ที่จะทำให้คุณได้เป็นคาวบอยประยุกต์อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

เปิดทำการ : ตั้งแต่เวลา 10:00 น. ปิดวันจันทร์
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (ไทย / ต่างชาติ) 300 บาท เด็ก ส่วนสูง 90-140 เซนติเมตร (ไทย / ต่างชาติ) 150 บาท

2. พรีโม เพียซซ่า (Primo Piazza)

สถานที่ท่องเที่ยวเขาใหญ่ ที่จำลองบรรยากาศจากหมู่บ้านทัสคานี ประเทศอิตาลีเอาไว้ ที่นี่นับเป็นที่เที่ยวเขาใหญ่สำหรับผู้ที่ชอบการถ่ายภาพ พร้อมมีกิจกรรมการให้อาหารแกะอยู่ด้านใน นอกจากนี้ บัตรเข้าชมสถานที่ของที่นี่ยังสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดซื้อของจากร้านค้าได้อีกด้วย พรีโม เพียซซ่า จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเขาใหญ่อีกหนึ่งแห่งที่น่าแวะไปเยี่ยมชม

เปิดทำการ : ตั้งแต่เวลา 09:00 น. ปิดวันจันทร์
ค่าเข้าชม : คนไทย 100 ต่างชาติ 200 เด็ก 50

3. ซีนิคอลเวิล์ดเขาใหญ่ (Scenical World Khao Yai)

สำหรับใครที่ต้องการท่องเที่ยวไปพร้อมกับทำกิจกรรมสุดสนุกที่เขาใหญ่ สวนน้ำและสวนสนุกซีนิคอลเวิล์ดเขาใหญ่ ก็นับเป็นที่ๆ ตอบโจทย์ ด้วยเป็นสวนน้ำที่มีเครื่องเล่นทันสมัยและหลากหลายท่ามกลางแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและอากาศดีๆ ของเขาใหญ่ ตั้งแต่เครื่องเล่นน่ารักๆ ยันเครื่องเล่นที่มีความท้าทาย พร้อมกันนั้น รอบๆ ก็ยังมีร้านอาหารและมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมายอีกด้วย

เปิดทำการ : ตั้งแต่เวลา 09:00 น. ปิดวันจันทร์
ค่าเข้าชม : บัตร Day Pass สำหรับผู้ใหญ่ 1,250 บาท และเด็ก 850 บาท

4. The Birder’s Lodge Café

แวะมาเที่ยวเขาใหญ่ หรือว่าโคราชกันทั้งที หากอยากได้ที่เที่ยวเก๋ๆ สำหรับไปแวะพัก เช็คอิน ดื่มกาแฟ หรือว่าดื่มด่ำกับบรรยากาศสวยๆ ของเขาใหญ่ แนะนำเลยว่าให้ปักหมุดไว้ที่ “The Birder’s Lodge Café” แล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะที่เที่ยวแห่งนี้มีทั้งส่วนที่เป็นร้านกาแฟ และที่พัก โดดเด่นด้วยสไตล์ดีไซน์มินิมอลโมเดิร์น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนทั้งหลายต่างแวะคาเฟ่แห่งนี้ เพื่อสั่งเครื่องดื่ม และถ่ายรูป แนะนำสำหรับคนที่อยากได้จุดเช็คอินถ่ายรูปเก๋ๆ ที่เขาใหญ่ ต้องมาโดน

เปิดทำการ : เปิดทุกวัน 8.30 – 6.30 น.

5. เขื่อนขุนด่านปราการชล

เนื่องจากพื้นที่เขาใหญ่ครอบคลุมไปด้วยพื้นที่หลายจังหวัด ฉะนั้น เขื่อนขุนด่านปราการชล จึงกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งของเขาใหญ่ ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศดีๆ โดยเขื่อนแห่งนี้เกิดขึ้นมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงคิดไว้เพื่อเป็นน้ำสำรองใช้สำหรับคนกรุงเทพฯ ที่นี่มีความโดดเด่นอยู่ตรงทัศนียภาพสวย ๆ ของเขื่อนดิน ที่จะทำให้คุณได้รูปสวยๆ กลับไปอย่างแน่นอน

เปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06:00 -17.00 น.
ค่าเข้าชม : ฟรี

6. จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม (Jim Thompson Farm)

ยังคงเป็นกิจกรรมยอดนิยมในเขาใหญ่ กับการเดินชมดอกไม้สวยๆ ถ่ายรูปคู่ถ่ายกับความงดงามของธรรมชาติ ฉะนั้น เขาใหญ่จึงมีที่เที่ยวหลายแห่งที่มีดอกไม้ให้เที่ยวชม ซึ่งจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ที่เขาใหญ่นี้ ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรฯ ที่มีความใหญ่โตอลังการมากกว่า 600 ไร่ แต่ทั้งนี้ ที่นี่จะเปิดให้เข้าชมแค่ในช่วงธันวาคม – มกราคมของทุกปีเท่านั้น

เปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 -17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ วันธรรมดา 180 บาท เสาร์-อาทิตย์ 220 บาท  / เด็ก วันธรรมดา 130 บาท เสาร์-อาทิตย์ 160 บาท

7. เขาใหญ่ อาร์ต มิวเซียม (Khao Yai Art Museum)

ใครว่าเขาใหญ่ไม่มีที่เที่ยวทางศิลปะ เขาใหญ่ อาร์ต มิวเซียม ถือเป็นพิพิธภัณฑ์หอศิลป์ส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมผลงานศิลปะกันฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยที่นี่มีพื้นที่ทั้งหมด 20 ไร่ ซึ่งเต็มไปด้วยความร่มรื่น โดยแบ่งออกเป็น Art Gallery และ Art Space ทั้งนี้ ความน่าสนใจของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือจะมีแต่ผลงานที่เจ้าของเป็นคนสะสมเอาไว้ บางชิ้นงานก็หาดูได้ยาก และมีศิลปะจากหลากหลายแขนงมารวมไว้ในที่เดียว แต่ช่วงนี้เมื่อมีการระบาดของโควิด-19 พิพิธภัณฑ์จะทำการปิดชั่วคราว

เปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 -17.00 น.
ค่าเข้าชม : ฟรี

8. ฟลอร่า ปาร์ค (Flora Park)

ฟลอร่า ปาร์ค เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่มากกว่า 69 ไร่ โดยที่เที่ยวเขาใหญ่แห่งนี้เต็มไปด้วยสวนดอกไม้สวยๆ ที่มีการหมุนเวียนปลูกพันธุ์ดอกไม้ตามฤดูกาล ซึ่งนอกจากจะมีดอกไม้สวยงาม ให้คุณได้ถ่ายรูปสวยๆ และชื่นชมธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเขาใหญ่ที่มีอากาศดี มีโอโซนให้ได้สูดอย่างเต็มปอด พร้อมมีจุดชมวิวสวยๆ 360 องศาให้มองเห็นวิวสวยได้ทุกมุมอีกด้วย

เปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 -18.00 น.
ค่าเข้าชม : 150 บาท

9. วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม (วัดพระขาว)

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หรือที่วัดพระขาว เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาสูง ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติของเขาใหญ่ ที่เที่ยวเขาใหญ่อีกหนึ่งแห่งนี้มีเอกลักษณ์เป็นองค์พระสีขาวขนาดใหญ่ ที่สามารถมองเห็นโดดเด่นมาแต่ไกล ชื่อว่า พระพุทธสกลสีมามงคล โดยผู้ที่ได้มาวัดนี้ ต้องขึ้น-ลงบันได 1,250 ขั้น หากไปเขาใหญ่ ต้องอย่าลืมหาโอกาสแวะไปสักการะกัน

เปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 -18.00 น.
ค่าเข้าชม : ฟรี

10. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ที่เที่ยวสุดท้ายของเขาใหญ่ ที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอากาศที่บริสุทธิ์ ความสดชื่นของธรรมชาติที่แวดล้อม และความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ฉะนั้น หากใครได้มา ก็ต้องแวะไปสัมผัสวิวทิวทัศน์กันดู หรือสำหรับผู้ที่อยากคลายร้อน ก็สามารถแวะไปยังน้ำตกเหวสุวัต ที่ตั้งอยู่ในอุทยานได้เช่นกัน

เปิดทำการ : วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 07.00  – 17.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.00 – 19.00 น.
ค่าเข้าชม: ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท

 

10 ที่เที่ยวเขาใหญ่นี้ ถ้าไปไม่หมดทริปหน้าก็เตรียมมาเที่ยวกันต่อ แต่อย่างไรก็ดีจองที่พัก รวมถึงบัตรที่เที่ยวกับ Traveloka หรือว่าจะจองที่พักเขาใหญ่ไปพร้อมกันเลย ไม่ว่าจะจัดทริปล่วงหน้ากระชั้นชิดแค่ไหนก็สบาย เพราะมีทราเวลโลก้าเป็นตัวช่วย ทริปหน้านี้ใครจะมาเขาใหญ่ก็สะดวก เชื่อเหอะ!

 

รีวิวแพลนเที่ยวน่าน แบบ Road Trip พาขับรถเที่ยวน่านแบบเนิบ

หลังจากเงียบหายจากการท่องเที่ยวไปสักนานจากสถานการณ์โควิด19 ที่ผ่านมาก็ถึงเวลาที่เราจะพาทุกคนออกไปท่องเที่ยวสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติของประเทศไทยที่ต้องบอกเลยว่าอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากพร้อมให้นักท่องเที่ยวอย่างพวกเราได้ออกมาเดินทางไปสนุกสนานกันได้อย่างเพลิดเพลิน โดยจังหวัดที่เราจะพาทุกคนไปท่องเที่ยวกันนั่นก็คือ น่าน หนึ่งในจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศไทย ที่เต็มไปด้วยความเรียบง่าย และความร่มรื่นที่คุณสามารถมาท่องเที่ยวได้อย่างเนิบ ๆ ไปพร้อมกับการสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอดไปพร้อม ๆ กับเราได้เลยว่าแล้วอย่ามัวเสียเวลาตัดสินใจรีบกดตั๋วเครื่องบินผ่านทาง Traveloka เว็บไซต์และแอปพลิเคชันด้านการเดินทางที่จะทำให้คุณสามารถออกไปท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย

จองตั๋วเครื่องบินไปน่าน ราคาสุดคุ้ม กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Nan.NNT

การเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดน่าน

เรียกได้ว่าการเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดน่านแห่งนี้ การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็อาจจะเป็นอะไรที่ไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร ดังนั้นการเดินทางของเราในครั้งนี้จึงเริ่มต้นด้วยการเช่ารถส่วนตัวขับที่สามารถกดจองได้ง่าย ๆ ผ่านฟีเจอร์น้องใหม่ของทาง Traveloka อย่าง CR (Car rental) ที่คุณจะเลือกจองรถได้ตามความเหมาะสมของการใช้งาน โดยภายในแอปพลิเคชันนี้จะมีรถหลากหลายรุ่นให้คุณได้เลือก ทั้งรถตู้ รถเก๋ง 4 ประตู รถเก๋ง 5 ประตูนั่นเอง ซึ่งวิธีการจองก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่คลิกเข้าไปที่ฟีเจอร์ตัวใหม่ กดเลือกสถานที่ในการรับรถ จำนวนคน เลือกประเภทของรถ และกดยืนยันเท่านี้ เมื่อเราเดินทางมาถึงก็สามารถรับรถไปพร้อมขับขี่กันได้เลย

กดจองบริการเช่ารถขับ ได้ที่นี่ : https://www.traveloka.com/th-th/car-rental

วันแรกของการเดินทางที่น่าน

หลังจากเดินทางจากสนามบินกรุงเทพ มุ่งหน้าสู่จังหวัดน่าน ดินแดนของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็ขอเริ่มต้นการเดินทางด้วยการพาทุกคนไปรับประทานอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือกันก่อนนั่นก็คือ ข้าวซอย ที่ร้านข้าวซอยต้นน้ำ ร้านอาหารเก่าแก่ในจังหวัดน่าน ที่เปิดให้บริการมานานแล้วกว่า 30 ปี เพียงแค่มองจากภายนอกร้านที่เป็นบ้านไม้แล้วก็รู้เลยทันทีว่าร้านนี้ต้องมีมานานแล้วอย่างแน่นอน เรื่องของรสชาติก็รับประกันได้จากคิวคนที่ยืนรอได้เลย รู้อย่างนี้แล้วทางเราก็ไม่รอช้าเข้าไปต่อแถวกันก่อนเลย

เมื่อเดินเข้ามาภายในร้านแล้วเราก็เริ่มด้วยการเปิดเมนูมาดูก่อนเลยว่าเมนูเด็ดของทางร้านที่ไม่ว่าใครเดินทางมาก็พลาดไม่ได้เลยกับข้าวซอยเส้นกรุบกรอบ น้ำซุปเข้มข้นเสิร์ฟคู่กับน่องไก่ขนาดใหญ่ ที่ต้องบอกเลยว่ารสชาติกลมกล่อมเข้ากันเป็นอย่างดี แนะนำเลยว่าใครเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดน่านแห่งนี้ ห้ามพลาดมาชิมที่นี่เด็ดขาด

เวลาเปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น.

แวะทานข้าวกันจนอิ่มท้องแล้วก็เริ่มออกเดินทางขึ้นรถขับไปเที่ยวกันต่อที่ น้ำตกสะปัน แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอันงดงามท่ามกลางความสงบร่มเย็นที่เปิดให้พวกเราได้เข้าไปสัมผัสกับน้ำตกเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขาที่เงียบสงบ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าน้ำตกสะปันแห่งนี้เป็นหนึ่งในฉากของMV เพลงปล่อย ที่แนะนำเลยว่าใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปสายธรรมชาติแล้วละก็ ห้ามพลาดกับการเดินทางมาที่น้ำตกแห่งนี้เลย และแน่นอนว่าหากใครที่จะมาที่นี่แล้วละก็อย่าลืมใส่ขาสั้นไม่ก็ชุดที่สามารถลงน้ำได้สะดวก เพราะน้ำที่นี่ใสและเย็นมากเหมาะแก่การมานั่งแช่เท้าเล่นท่ามกลางบรรยากาศชิว ๆ เรียกได้ว่าฟินสุด ๆ เลยทีเดียว

หมดไปแล้วกับการเดินทางเที่ยวเล่นที่จังหวัดน่านแบบชิว ก่อนจะลาจากวันนี้กันไปนั้นเราก็ขอแนะนำหนึ่งกิจกรรมเด็ดที่ไม่ว่าใครเดินทางมาเที่ยวเหนือก็ต้องไม่พลาดอย่างการ กินหมูกระทะ ไปพร้อมกับการนั่งท้าลมหนาวชิว ๆ และนั่งเหม่อมองดาวหมดท้องฟ้าในบรรยากาศที่บอกเลยว่าหาชมได้ยากในกรุงเทพนั่นเอง

เวลาเปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.

วันที่สองของการเดินทางที่น่าน

ตื่นเช้ามาเจอกับวันที่สดใสในเช้าวันที่สอง ซึ่งในวันนี้เราจะขอพาทุกคนออกไปเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่สดใสด้วยวิวธรรมชาติที่สวยงาม และกาแฟที่หอมกรุ่นกันที่ อุ่นไอมาง (Oun I Mang) ที่นับได้ว่าเป็นทั้งร้านกาแฟ และรีสอร์ทชื่อดังที่รายล้อมไปด้วยวิวของริมธารอันเย็นสบายและใสสะอาดให้เหล่านักท่องเที่ยวได้มาเดินเที่ยวชมถ่ายรูป และนั่งดื่มด่ำไปกับกาแฟอันกลมกล่อมได้ที่บริเวณสถานที่แห่งนี้

ซึ่งต้องบอกเลยว่าใครที่ชอบแนว Slow life และอยากมาหามุมธรรมชาติสวย ๆ ถ่ายรูปแล้วละก็ที่ร้านอุ่นไอมาง ถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าเราจะหันไปมุมไหนก็จะเต็มไปด้วยหุบเขาอันเขียวขจี และสายธารเย็น ๆ ให้เราได้มาเดินเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งแน่นอนว่าทางเราก็ต้องไม่พลาดหามุมสวย ๆ มาแชะภาพถ่ายรูปไว้อัปโหลดรูปลงโซเชียลกันอย่างแน่นอน

เวลาเปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.00 น.

ตะลุยกันต่อกับการพาทุกคนไปไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลที่ วัดศรีมงคล (ก๋ง) หนึ่งในวัดอันเก่าแก่ที่ชาวเมืองน่านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก โดยภายในวัดแห่งนี้นอกจากจะเป็นแหล่งที่คนส่วนใหญ่เดินทางมากราบไหว้ และทำบุญแล้วยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาถ่ายรูปกับฝาผนังที่มีลวดลายอันสวยงาม และเป็นที่สะสมโบราณวัตถุที่สำคัญของเมืองน่านไว้ให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาเชยชมความงดงามกันที่บริเวณสถานที่แห่งนี้อีกด้วย

เวลาเปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.

ขอบคุณรูปภาพจากfacebook.com/Viewna Cafe

หลังจากกราบไหว้ขอพรพระเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ก็ได้เวลาของสายคาเฟ่อย่างเราที่เมื่อเดินทางมาถึงเมืองน่านแล้วก็ต้องมาที่นี่เลยกับ วิวนาคาเฟ่ ร้านคาเฟ่ชื่อดังใจกลางทุ่งนา ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเดินเที่ยวชมและสัมผัสไปกับวิวนาอันงดงาม และยังสามารถสั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบชิว ๆ หรือใช้เป็นพร๊อบในการถ่ายรูปได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย แนะนำเลยว่าถ้าใครที่ชอบการถ่ายรูปกลางแบบธรรมชาติแล้วละก็ วิวเขียงนา และสะพานไม้ทอดยาวที่คาเฟ่แห่งนี้สวยงามอย่าบอกใครเลย

เวลาเปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น.

เที่ยวเล่นกันมาถึงเวลาบ่ายแก่ ๆ แล้วก็เตรียมตัวขึ้นไปชมความสวยงามกันต่อที่ จุดชมวิว 1715 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เพื่อรอชมความงดงามของวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ลาลับขอบฟ้าในยามเย็นได้อย่างสวยงาม เนื่องจากบริเวณจุดชมวิวแห่งนี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของการชมพระอาทิตย์ตกดินของเมืองน่าน ที่ไม่ว่าใครเดินทางมาก็ต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว

เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 24 ชั่วโมง

ซึ่งเมื่อเดินทางขึ้นมาถึงบริเวณจุดบนสุดแล้วละคุณจะสามารถมองเห็นแสงของพระอาทิตย์ยามเย็นที่สวยงามท่ามกลางไอความเย็นของบรรยากาศบนเขา และวิวของภูเขามากมายที่เรียงรายสลับซับซ้อนกันได้อย่างสวยงาม เรียกได้ว่าวิวดี ๆ แบบนี้เหมาะแก่การมาเดินเล่นกับแฟนสุดโรแมนติกเลยทีเดียว

วันที่สามของการเดินทางที่น่าน

เช้าวันที่สามของการเดินทางที่สดใสก่อนที่เราจะเริ่มออกเดินทางออกจากเมืองน่านแห่งนี้ก็ต้องไม่พลาดแวะพาทุกคนมาแวะชิมอาหารอร่อย ๆ กันที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ แหล่งเพาะชำเห็ดขนาดใหญ่ที่เปิดให้บริการทั้งการเที่ยวชมฟาร์มเห็ดที่งดงาม และเปิดเป็นร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นที่เพิ่มความเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ด้วย เห็ด มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการทำอาหารภายในร้านอีกด้วย

ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าเมนูเด็ดของทางร้านแห่งนี้ก็คือ  พิซซ่าเห็ด แสนอร่อยที่เสิร์ฟมาพร้อมกับแป้งพิซซ่าที่คุณสามารถเลือกได้ทั้งแบบบางกรอบ และแบบแป้งหนานุ่ม และแน่นอนว่าทางเราก็ต้องไม่พลาดลองสั่งพิซซ่าเห็ดแป้งบางกรอบ  ที่แสนหอมละมุนไปด้วยเห็ดสด ๆ และชีสเต็ม ๆ คำและแป้งพิซซ่าที่แสนอร่อย ที่รับรองได้เลยว่าถ้าใครได้มาลิ้มลองรสชาติที่นี่แล้วละก็จะต้องติดใจอย่างแน่นอน

เวลาเปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.30 น.

อีกหนึ่งมุมถ่ายรูปเมืองน่านที่ควรแวะมาก่อนกลับก็คือ อุโมงค์ลีลาวดี สถานที่ท่องเที่ยวสุดธรรมชาติที่เปิดให้คุณได้มาเดินเล่น และสัมผัสไปกับภาพบรรยากาศอันสวยงามของซุ้มต้นลีลาวดีสีขาวขนาดใหญ่ที่เรียงรายทอดยาวกันจนกลายเป็นอุโมงค์ต้นไม้ ให้เราได้มาเดินถ่ายรูปกันได้อย่างสนุกสนานและเพลิดเพลิน แนะนำเลยว่าหากใครที่อยากมาถ่ายรูปกันที่อุโมงค์บริเวณนี้แล้วละก็อย่าลืมเตรียมชุดกระโปรงเก๋ ๆ มาสะบัดถ่ายรูปกันได้เลย

เวลาเปิดทำการ : ทุกวันพุธ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น.

และแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพกันแล้ว เรียกได้ว่าการเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองน่านในครั้งนี้ นอกจากจะได้สัมผัสกับวิวธรรมชาติอันงดงามแล้วยังได้เพลิดเพลินไปกับร้านอาหารอร่อย ๆ วิวคาเฟ่ และสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงที่น่าหลงใหล ซึ่งนับได้ว่าการเดินทางในครั้งนี้เป็นเส้นทางแห่งประสบการณ์ที่เปิดให้เราได้เจอโลกที่กว้างและสวยงามมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วหากใครที่อยากออกมาเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สนุกสนานแบบเราแล้วละก็สามารถกดจองตั๋วเครื่องบินแล้วออกมาตะลุยไปพร้อม ๆ กันได้เลย

 

รวม 10 นาฬิกาข้อมือผู้หญิง ซื้อได้ในราคาเบาๆ ไม่เกิน 3,000 บาท

รวม 10 นาฬิกาข้อมือผู้หญิง ซื้อได้ในราคาเบาๆ ไม่เกิน 3,000 บาท

นาฬิกาข้อมือ ถือเป็นเครื่องประดับอีกอย่างหนึ่งที่ผู้หญิงๆ หลายๆ คนให้ความสนใจ ทำให้การซื้อนาฬิกาไม่ใช่แค่เรื่องง่ายๆ ซื้อแค่ดูเวลาเท่านั้น แต่เรื่องของรูปแบบและราคาก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับผู้หญิงอย่างเรา เชื่อได้ว่า คุณจะต้องไม่ได้มีนาฬิกาเพียงเรือนเดียว เพราะนาฬิกาที่ใส่ก็ต้องแมตช์กับเสื้อผ้าด้วย การมีนาฬิกาหลายเรือนก็ทำให้ต้องเก็บเงินนานไปอีก วันนี้เราได้ โรบินสันออนไลน์ คลิก>  https://www.robinson.co.th/th มาช่วยแนะนำให้ นาฬิกาสำหรับสาวๆ ที่สวยแล้วราคาน่ารักด้วย ไม่เกิน 3,000 บาท ก็มีนาฬิกาใส่ได้หลายเรือนเปลี่ยนได้แบบไม่ซ้ำลุคแล้ว

  1. CASIO

สาวๆ ที่ไม่ชอบความหวานมากนัก รักความเท่ๆ เรียบหรูแลมีความพรีเมี่ยมในราคาเบาๆ นาฬิกาจาก CASIO รุ่น LTP-E157M-7ADF ก็เหมาะกับไลฟสไตล์ของคุณมากๆ นอกจากเติมข้อมือให้สวยงามโดดเด่น เรื่งของคุณภาพก็ไม่ธรรมดาขึ้นชื่อเรื่องแบรนด์ Casio เขาระดับพรีเมี่ยมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องของวัสดุคงทน ใช้งานได้ยาวนาน สำหรับรุ่นนี้เป็นสายสเตนเลสสตีล สายปรับได้ กันน้ำได้ด้วยน้ำหนักเบา เหมาะกับสาวๆ

  • ราคาประมาณ 2,7xx บาท
  • นาฬิกา CASIO ราคาพิเศษ ที่โรบินสัน ออนไลน์ >> https://www.robinson.co.th/th/casio 

  1. Julius

มาต่อที่นาฬิกาจาก Julius แบรนด์นาฬิกาชื่อดังจากเกาหลี ซึ่งยี่ห้อนี้สาวๆ ที่เกาหลีคือนิยมมาก ด้วยดีไซน์ที่น่ารักเหมาะกับข้อมือสาวๆ  ด้วยราคาที่ไม่แรงมาพร้อมคุณภาพแน่นๆ  มิกซ์กับชุดไหนก็เด่นทันสมัย อัพลุคสาวๆ ให้สวยหรู อินเทรนด์ สไตล์สาวเกาหลี อย่างรุ่นนี้ Julius JA-982 MD น่ารักด้วยสีชมพู ระบบเครื่อง Miyota Japan Quartz ดีไซน์เนี๊ยบ คุณภาพเป๊ะ กันน้ำได้ถึงระดับ 3 ATM ล้างมือได้ไม่ต้องกลัวถึงแม้ว่าน้ำจะกระเซ็นใส่นาฬิกา

  • ราคาประมาณ 2,0xx บาท
  • นาฬิกา Julius ราคาพิเศษ ที่โรบินสัน ออนไลน์ >> https://www.robinson.co.th/th/julius

  1. ALBA

อีกแบรนด์ที่เราอยากแนะนำสำหรับสาวๆ ที่ชอบความเท่เรียบง่าย แบรนด์ ALBA รุ่น AH8531X นาฬิกาข้อมือผู้หญิงหรูหราแสนเรียบง่าย เป็นไอเท็มประจำตัวของผู้หญิงยุคนี้เลย ด้วยดีไซน์หรูหรา โดดเด่นด้วยตัวเลือนหน้าฬิกาสีดำล้อมรอบด้วยเพชรระยิบระยับ มาพร้อมสายคุณภาพเยี่ยม ทนทาน ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้คุณดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น นอกจากดีไซน์ที่สวยงามแล้วยังมีคุณสมบัติที่สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร และเป็นระบบกลไก QUARTZ

  • ราคาประมาณ 3,0xx บาท
  • นาฬิกา ALBA ราคาพิเศษ ที่โรบินสัน ออนไลน์ >> https://www.robinson.co.th/th/alba

  1. NINE WEST

NINE WEST เป็นอีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาข้อมือที่สาวๆ ชื่นชอบด้วยดีไซน์ทันสมัยน่ารัก ที่มาพร้อมกับราคาไม่แรง อย่างตัวนี้ รุ่น NW2264RGRG มีรูปทรงสวยงาม สีน่ารักโรสโกลด์เหมาะกับสาวๆ ยุคใหม่ความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ คุณภาพระดับพรีผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ทนทาน สาวๆ ใส่แล้วขับผิวช่วยให้ลุคดูโดดเด่นขึ้นมาได้ นอกจากดีไซน์สวยแล้วยังมีคุณสมบัติที่สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 3 ATM ด้วย ระบบกลไกแบบอะนาลอก (Analog) ใช้ง่ายทนทาน

  • ราคาประมาณ 2,1xx บาท
  • นาฬิกา NINE WEST ราคาพิเศษ ที่โรบินสัน ออนไลน์ >> https://www.robinson.co.th/th/nine-west

  1. TITAN

อีกแบรนด์นาฬิกาที่ราคาไม่แรงและมีดีไซน์นาฬิกาที่น่ารักอย่าง TITAN รุ่น NEO – II T-2569KM02 ที่โดดเด่นด้วยสายสายสแตนเลสสตีล 2 กษัตริย์ และหน้าปัดสีหวานด้วยโรสโกล์ดแสนโดดเด่นไม่เหมือนใคร ทนทาน วัสดุในการทำระดับพรีเมี่ยม กันน้ำ 10 เมตร ใช้ระบบ Quartz (Battery) มีติดไว้ใส่ได้ทุกวัน แล้วเข้าได้กับทุกลุคเสื้อผ้าเลย

  • ราคาประมาณ 2,3xx บาท
  • นาฬิกา TITAN ราคาพิเศษ ที่โรบินสัน ออนไลน์ >> https://www.robinson.co.th/th/titan

  1. GANT

มาต่อกันที่นาฬิกาจากสัญชาติอเมริกัน  GANT  โดดเด่นด้วยตัวเรือนสีเงินและหน้าปัดที่ดุดันด้วยสีดำ แต่ก็ล้อมรอบด้วยเพชรเพิ่มความอ่อนหวานให้กับข้อมือสาวๆ ได้ เหมาะสำหรับสาวๆ ที่รักความเท่มากๆ  วัสดุคุณภาพแน่น น้ำหนักเบาสวย คลาสสิคเหมาะกับทุกโอกาสไม่ว่าจะไปงานแบบทางการ ทำงานในทุกๆ หรือไปเที่ยวชิลล์กับเพื่อนก็ได้เช่นกัน เรียกได้ว่าใส่ได้กับทุกลุคๆ เลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติกันน้ำได้ถึง 30 เมตร

  • ราคาประมาณ 2,6xx บาท
  • นาฬิกา GANT ราคาพิเศษ ที่โรบินสัน ออนไลน์ >>  https://www.robinson.co.th/th/gant

  1. Mishali

นาฬิกาข้อมือ Mishali รุ่น MI19030L B โดดเด่นด้วยสายหนังแท้สีแดง ตัดกับหน้าปัด สีขาว มีความกว้างหน้าปัดขนาด 3 CM พอดีกับข้อมือสาวๆ ไม่ใหญ่เกินไป วัสดุมีความคงทนพรีเมี่ยม และกันน้ำได้ระดับ 3ATM (3เมตร) ระบบเครื่องนาฬิกาทนทานใช้ได้นานเพราะเป็นระบบจากญี่ปุ่น มาพร้อมการรับประกันตัวเครื่อง 1 ปีเต็ม ใครชอบสีสันสดใสได้เรือนนี้ไปคุ้มค่าแน่นอน

  • ราคาประมาณ 1,7xx บาท
  • นาฬิกา Mishali ราคาพิเศษ ที่โรบินสัน ออนไลน์ >> https://www.robinson.co.th/th/mishali

  1. Scottie

อีกหนึ่งนาฬิกาสีสันน่ารักสดใสจากแบรนด์ Scottie มาพร้อมด้วยสีหน้าปัดสีชมพู และสายนาฬิกาสแตนเลสแท้ มั่นใจได้ว่าไม่หลอกแม้ใช้ไปเป็นระยะเวลานานอีกทั้งยังช่วยให้ข้อมือของคุณดูดีโดดเด่นขึ้น และช่วยเสริมบุคลิกให้คุณได้ในทุกๆ ลุค นอกจากนี้ด้วยความกว้างหน้าปัดขนาด 3.3 cm ทำให้พอดีกับข้อมือ น้ำหนักเบาใส่แล้วไม่เมื่อยแขนด้วย ระบบเครื่องนาฬิกาจากญี่ปุ่น Japanese Quartz Movement กันน้ำได้ระดับ 3 ATM (3 เมตร)

  • ราคาประมาณ 2,4xx บาท
  • นาฬิกา Scottie ราคาพิเศษ ที่โรบินสัน ออนไลน์ >>  https://www.robinson.co.th/th/scottie

  1. CASIO

นาฬิกา CASIO มีหลายสไตล์มาก อย่าง Sheen รุ่น SHE-4052PGL-4AUDF  รุ่นนี้ก็เหมาะกับสาวๆ ที่ชอบความสวยหวานแต่แอบแฝงความเท่ไว้ด้วย ด้วยตัวสายหนังแท้ และหน้าปัดเป็นกระจกมิเนอรัล คงทน สีอ่อนหวานชมพูที่มีความตัดเบาๆ แต่ก็เป็นดีไซน์ที่ลงตัวมาก ผลิตจากวัสดุคุณภาพดีเยี่ยม คงทน ใช้งานได้ยาวนาน เหมาะกับทุกสไตล์การแต่งตัว

  • ราคาประมาณ 2,9xx บาท
  • นาฬิกา CASIO ราคาพิเศษ ที่โรบินสัน ออนไลน์ >>  https://www.robinson.co.th/th/casio

  1. SUPERDRY

เห็นยี่ห้อก็รักแล้วเพราะด้วยความเป็น SUPERDRY แต่พอเห็นสียิ่งรักว่า โดดเด่นด้วยสีชมพูคิ้วท์ๆ เหมาะกับผู้หญิง มาพร้อมกัยสายเรซิ่นรักษาง่าย รุ่นนี้คือ รุ่น SYG164PW สามารถกันน้ำได่ถึง 50 เมตร ขนาดตัวเรือน 35.0 X 32.0 X 9.0 mmน้ำหนักประมาณ 125 g ใส่ได้ทุกวันเพิ่มเสน่ห์ให้ข้อมือคุณด้วย

  • ราคาประมาณ 1,1xx  บาท
  • นาฬิกา Superdry ราคาพิเศษ ที่โรบินสัน ออนไลน์ >>  https://www.robinson.co.th/th/superdry

 

สาวๆ ที่กำลังมองหานาฬิกาน่ารักๆ ราคาไม่แพงให้เป็นของขวัญตัวเองหรือจะซื้อฝากเพื่อน หรือแม้แต่หนุ่มๆ ที่อยากซื้อของขวัญให้แฟนก็แนะนำ 10 แบรนด์นาฬิกาที่ โรบินสัน ออนไลน์ แนะนำให้ได้เลย รับรองว่า แต่ละตัวราคาคุ้มค่าคุ้มราคาและซื้อกับ โรบินสัน ออนไลน์ได้ของแท้ชัวร์แน่นอน