รีวิว Afternoon Tea ร้านเรือนนพเก้า สาทรซอย6

พูดถึงร้านอาหารไทยโบราณ ที่ดังที่สุดในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น ร้านเรือนนพเก้า สาทรซอย6 ร้านที่เน้นเรื่องคุณภาพไปสักทุกอย่าง ตั้งแต่อาหารไปถึงการบริการ

วันนี้พิมจะมาพูดถึง Afternoon tea Ruen Noppagao

แค่เห็นการพรีเซ็นของทางร้านก็ต้องร้องว้าวววดังๆ รังสรรค์โดยเชฟปิ๊ก คณิน สินพันธ์ เชฟฝีมือดี ที่ผ่านการแข่งขันในรายการ เชฟสุดขั้ว ครัวสองโลก และเชฟปิ๊ก ยังได้รับรางวัลเหรียญทอง TICC 2 ปีซ้อนจาก TICC, Thailand International Culinary Classic Thai Cuisine จึงเป็นเครื่องการันตีถึงฝีมือการทำอาหารอร่อยทุกคำ และการจัดแต่งที่อลังการมาก

Afternoon tea Ruen Noppagao

1790++ จำนวน 2 ท่าน

ขายตั้งแต่ 15.00 – 18.00 น. ของทุกวัน

จำหน่ายวันละ 5 เท่านั้น

ชื่อชุด เรือนนพเก้า

เรือนนพเก้า แปลว่า เรือนความงดงามแห่งอัญมณีศิริมงคล ที่เป็นมรดกในดินแดนสุวรรณภูมิ “ดินแดนแห่งทองคำ” ในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าที่บรรดาพ่อค้าจากตะวันออกและตะวันตกแล่นเรือมาค้าขายและแลกเปลี่ยนสินค้า

กล่าวกันว่าดินแดนสุวรรรณภูมิอุดมไปด้วยทองคำและอัญมณีล้ำค่าหลายชนิด ความงดงามและคุณค่าของอัญมณีเหล่านั้น ได้ถูกถ่ายทอดผ่านกาลเวลามาหลายยุดหลายสมัยตั้งแต่ สมัยอู่ทอง อยุธยา รัตนโกสินทร์กลายเป็นมรดกทางศิลปะแห่งอัญมณีที่ชาวไทยได้ชื่นชมมาอย่างช้านาน

จากอดีตกาลสู่ปัจจุบันหนึ่งในเครื่องประดับอันทรงคุณค่าเป็นศิริมงคลเหล่านั้น คือนพเก้า นอกจากนี้ นพรัตน์ ยังเป็นส่วนหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระราชทานนาม โดยเปรียบเมืองหลวงของไทย ดั่งเมืองสวรรค์แห่งเทพอันเป็นที่มาของรัตนชาติทั้ง 9 ประการ

และสอดคล้องกับเรือนนพเก้า เปรียบเทียบดั่งบ้านในสรวงสรรค์ และนอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของดาวพระเคราะห์ที่เชื่อถือกันสือต่อกันมา ภายใต้ความงามเจิดจรัสของอัญมณีทอแสง 9 ชนิด จึงได้นำมาร้อยเรียงเป็นขนมมงคล 9 ชนิดอันได้แก่

เพชร คือ เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ มีชัยแก่ศัตรู ร่ำรวย ทางร้านใช้เป็นวุ้นน้ำมะพร้าวน้ำหอมจากเพียรหยดตาล เป็นตัวแทนของ เพชร

ทับทิม คือ ความสำเร็จ ลาภยศ อายุยืน ทางร้านใช้เป็นขนมเกสรลำเจียร เป็นตัวแทนของ ทับทิม

มรกต คือ ความศรัทธา กล้าหาญ ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง ทางร้านใช้เป็นขนมหยกมณี เป็นตัวแทนของ มรกต

บุษราคัม คือ มีเสน่ห์ เป็นที่รัก ทางร้านใช้ขนมหันตรา เป็นตัวแทนของ บุษราคัม

โกเมน คือ สุขภาพดี อายุยืนนาน ทางร้านใช้ขนมลิ้นจี่เป็นตัวแทนของ โกเมน

นิลกาฬ (ไพลิน) คือ ความรัก ความเมตตากรุณา ความร่ำรวย ทางร้านใช้เป็นขนมบุลันดันเมฆ เป็นตัวแทนของนิลกาฬ (ไพลิน)

มุกดาหาร คือ ความบริสุทธิ์ ร่มเย็น และชนะแก่ศัตรู ทางร้านใช้ขนมข้าวตอกตั้ง เป็นตัวแทนของมุกดาหาร

เพทาย คือ ความร่ำรวย ชนะคดีความ ทางร้านใช้ขนมหินฝนทอง เป็นตัวแทนของ เพทาย

ไพฑูรย์ คือ เทวดาคุ้มครอง ป้องกันฟืนไฟ ทางร้านใช้ขนมฝอยทอง เป็นตัวแทนของ ไพฑูรย์

นอกจากราจะได้รับประทานขนมหวานที่แสดงตัวตนของพลอยอัญมณี 9 ประการของไทยแล้ว ยังจะได้รับประทานเครื่องว่างอีกจำนวน 9 อย่างด้วยนะจ๊ะ อร่อยทุกอย่างบอกเลย

ช่อม่วงไส้ปู

ปั้นสิบไส้ปลาสลิด

ม้าฮ่อ

ขนมจีบไทยไส้หมู

ปูจ๋า

ค้าวคาวเผือก

ยำส้มโอแบบโบราณ

แตงโมหน้าปลาแห้ง

ประทัดลม

พร้อมทั้งชาที่จะเลือกเสิร์ฟคู่กับอาหารอาทิเช่น

ชาถวายตัว

ชานมัสการ

ชาตะไคร้ดอกอัญชัน

ชาใบเตยตะไคร้

ชาขิงตะไคร้

แต่ชาเป็นที่นิยมมาเรือนนพเก้าแล้ว ควรลองชาตัวนี้

ชาถวายตัวจากหม่อมเจ้าสาย ลดาวัลย์ ซึ่งเป็นอัครชายาในหลวงรัชกาลที่ 5 ซึ่งพระองค์ทรงจดบันทึกไว้ว่า ก่อนที่นางในจะถวายตัวให้กับเจ้านายหรือพระมหากษัตริย์จะนิยมดื่มชานี้ เนื่องจากส่วนประกอบของชานี้จะมีใบขลู่ จะช่วยขับของเสียออกจากทางเหงื่อ และเค้าเชื่อกันว่ากลิ่นเหงื่อครั้งที่ 2 จะเป็นกลิ่นดอกไม้หอม

เนื่องจากว่าจะมีส่วนประกอบของ ดอกจำปี จำปา ลีลาวดี และกระดังงาไทย ชานมัสการจากสวรรค์บนดิน จังหวัดเชียงราย ชาจากหมู่บ้านดอยงาม ชาจากหมู่บ้านห้วยหินลาดใน และชาจากหมู่แม่จันใต้ ชาทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยเท่านั้น

ร้านเรือนนพเก้า ยังมีเมนูอื่นๆ แต่ละเมนูไทยต้นตำรับจริง แถมอร่อยทุกจาน พิมนี่แทบไม่ว่างช้อนเลย ..55

ใครที่มองหาอาหารไทยโบราณขนานแท้ ร้านนี้พิมแนะนำ เป็นอีกหนึ่งร้านประจำของพิม ^^

รายละเอียดเพิ่มเติม

ร้านอาหาร : เรือนนพเก้า

พิกัด : สาทร ซอย 6 แขวง สีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

เบอร์โทร : 02 116 3317

Facebook: https://www.facebook.com

รีวิว Sunday Brunch ที่โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพ

ใครที่คิดถึงบุฟเฟ่ต์ Sunday Brunch (ซันเดย์ บรั้นซ์) ของโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ มีข่าวดีมาบอก ทางโรงแรมได้เปิดบริการแล้วนะจ๊ะ

ราคาในตอนนี้ ซันเดย์บรั้นช์แพ็คเกจ ท่านละ 2,200 ++ บาทต่รวมน้ำผลไม้ ชา กาแฟ และซอฟท์ดริงค์

(ไม่มีแอลกอฮอล์)

สำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี สามารถอิ่มอร่อยครึ่งราคา 50%

เมนูในช่วงนี้ก็จะเป็นแบบสั่งกับพนักงานก่อนนะคะ เพราะยังต้องรักษาความปลอดภัย ของสถานการณ์โควิค แต่อาหารยังเริ่ดเหมือนเดิม

หรือใครที่ชอบดื่ม เค้าก็มี

สปาร์คกลิ้งไวน์แพ็คเกจ ราคา 3,000++ บาท รวม

ไวน์แดงไวน์ขาว เบียร์ นํ้าผลไม้ และซอฟท์ดริงค์

• แชมเปญแพ็คเกจ ราคา 4,100++ บาท รวม

แชมเปญ ไวน์แดง ไวน์ขาว เบียร์ นํ้าผลไม้ และ

ซอฟท์ดริงค์

เมนูอาหารก็ยังคงเป็นเมนู นานาชาติ ที่คัดสรรเมนูอาหารจานเด่นจากห้องอาหารต่างๆ ของทางโรงแรมฯ มารวมกันไว้ให้ท่านได้อิ่มอร่อยกับทุกเมนูภายในมื้อเดียว

มีทั้งเมนูซีฟู้ดคุณภาพพรีเมี่ยม

Sunday Brunch

Starters

Seafood on ice platter

Mixed garden greens

Sushi Sashimi omakase

ซูชิ ซาชิมิ

ปลาดิบคุณภาพเยี่ยมจากห้องอาหารญี่ปุ่นชินทาโร่

Mix cold cut, smoke salmon & cheese

Signature salads

peking duck

Char sui red pork

A la carte main courses

Truffle scrambled eggs

Beef wellington with truffle jus

อาหารยุโรปก็มี สเต๊กเนื้อคุณภาพนำเข้าจากห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์

Broccoli puree and scallop risotto

Pipe Rigate Amatriciana, Onion, Bacon, Tomatoes, Coulis, Pecorino Cheese

พาสต้า รีซอตโต ต้นตำรับอิตาเลียน

จากห้องอาหารบิสก็อตติ

Roasted Cauliflower with Parmesan and Hazelnut

จากห้องอาหารเมดิสัน เมนูนี้พิมชอบมากก!

Grilled Lamb Chop with Green Pea and Couscous 

Pan Seared Salmon with Anti Boise and Black Olives

Poached Egg Royale with Lobster, Smoked Salmon and Tomato Hollandaise

และอาหารไทย สไปซ์ มาร์เก็ต

เมนูส้มตำ ผัดไท

มาส่วนเมนูเครื่องดื่ม พิมขอแนะนำให้สั่งน้ำฝรั่ง อร่อยมาก ดื่มคนเดียวเกือบหมดสต๊อก 555…

เมนูของหวานก็อลังการงานสร้าง พนักงานจะมาเข็นรถมาทำ ช๊อคโกแลตโดมให้ได้ทานกันตรงหน้า และก็ให้เราได้มีส่วนร่วม ในการเอาช้อนมาเคาะโดมให้แตก หน้าตาข้างใน น่าทานมาก และขอบอกอร่อยมาก

Chocolate Piñata – Chocolate Dome filled with Churros Meringue Sponge and Strawberry

นอกจากนี้ยังมีขนมหวานนานาชนิด อาทิ ช็อคโกแลตโดม ไอศกรีมโฮมเมด และ อื่นๆ แต่ละอย่างน่าทานทั้งนั้น ถูกใจคนรักขนมแน่นอน

บรรยากาศของโรงแรมนี้ไม่ต้องพูดถึง คือดีมาก ชอบมาก ต้นไม้เยอะ บรรยากาศอย่างกะอยู่อีกโลกเลย

ทางร้านอาหารมีทั้ง in door ชมนกชมไม้ ฟังเสียน้ำและ out door ที่อยู่ในห้องแอร์ สวยหมด แล้วแต่เพื่อนๆชอบแบบไหน แต่แนะนำให้โทรมาจองกันก่อนจะมานะคะ จะได้ที่นั่งที่ถูกใจ

out door ก็จะมีพี่จรเข้ขี่มอเตอร์ไซค์เท่ห์คอยดูแลด้วยนะ 55555..

การเดินทางก็ง่ายนิดเดิยว

สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีราชดำริ ก็ถึงเลย

รายละเอียดเพิ่มเติม

ซันเดย์ บรั้นช์ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11:30 น. ถึง 15:00 น. ทุกวันอาทิตย์

ในห้องอาหารเมดิสัน สเต๊กเฮ้าส์

(ชั้น 1 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ)

สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง

โทร. 0 2126 8866 ต่อ 1222

อีเมล: madison.asia@anantara.com

หรือเว็บไซต์: siam-bangkok.anantara.com

รีวิว ร้าน เดอะ คอฟฟี่ คลับ ออล-เดย์คาเฟ่ (THE COFFEE CLUB ) สาขา Hyatt Regency สุขุมวิท 13

เดอะ คอฟฟี่ คลับ ออล-เดย์คาเฟ่ยอดนิยมสัญชาติออสเตรเลียพร้อมเสิร์ฟความอร่อยเต็มคุณภาพภายใต้แนวคิด All-Day Dining and More!

ร้านนั่งสบายๆ ที่สามารถชิวได้ทั้งวัน เป็นอีกร้านที่พิมชอบมานั่งทำงาน นัดเพื่อน นัดลูกค้าก็จะมาร้านนี้ กาแฟเริ่ดแถมอาหารมีหลากหลายให้เลือก ในราคาสบายกระเป๋า

เมนูไฮไลก็มีหลายสไตล์ทั้ง เวสเทิร์น, เบอร์เกอร์ , ไทยฟิวชั่น หรือจะเป็นข้าวต้ม มีหมด ชอบเผ็ดน้อยเผ็ดมากสั่งได้เลย

มื้อเช้า DIY สไตล์เวสเทิร์น เลือกเมนูไข่ในแบบที่ชอบ ไม่ว่าจะ ไข่คน ไข่ดาว หรือ ไข่ลวก เสิร์ฟพร้อมขนมปังปิ้ง และมะเขือเทศย่าง มิกซ์แอนด์แมทช์เพิ่มกับเครื่องเคียงที่มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ แฮม เบคอน ไส้กรอกหมู แซลมอนรมควัน แฮชบราวน์ ผักโขม เห็ดผัด ฯลฯ

หรือจะเลือก DIY สไตล์ไทย กับเซ็ทข้าวต้มกุ๊ย ข้าวต้มร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงที่เลือกได้ถึง 4 อย่างในหมวด ไข่ ผัก เนื้อสัตว์ และยา อาทิ ไชโป๊วผัดไข่ ผัดผักบุ้ง หมูผัดหนาเลี๊ยบ ยาไข่เค็ม เป็นต้น

มื้อสาย หรือ Brunch กับเมนูยอดฮิต Classic Eggs Benedict ไข่เบเนดิกต์คลาสสิค ขนมปังSourdough อบกรอบ Poached Eggs Hollandaise Sauce และเลือกทอปปิ้งได้ทั้งแฮม, เบคอน หรือแซลมอนรมควัน

มื้อเที่ยง ขอนาเสนอเมนูเบอร์เกอร์ใหม่ล่าสุด เบอร์เกอร์ไก่สไปซี่ศรีราชา ไก่ทอดกรอบๆ รสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังเบอร์เกอร์เนื้อนุ่ม และผักสดหวานกรอบ

หรือจะเป็น Classic Cheeseburger เบอร์เกอร์เนื้อ ก็อร่อยถูกใจสายเนื้อมาก

มื้อเย็น เมนูอิ่มท้องสไตล์ไทยฟิวชั่นขายดีตลอดมาอย่าง สปาเกตตี้คอหมูย่างแจ่ว เส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มผสานความเข้มข้นของคอหมูย่างหมักผัดด้วยซอสแจ่วกลมกล่อมอย่างลงตัว

เมนูเครื่องดื่ม

ลาเต้

ช็อคโกแลตนูเทลล่า

ชาลิ้นจี่กุหลาบ

สตรอเบอร์รี่สมูธตี้

ช่วงนี้เค้ามีโปรโมชั่น

Buy 1 Get 1 Free! โปรโมชั่นเครื่องดื่ม ซื้อ 1 ฟรี 1 ที่ The Coffee Club ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะนั่งทานนั่งชิลที่ร้าน จะสั่งกลับบ้านแบบ takeaway หรือเดลิเวอรี่ทุกช่องทาง

ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. – 31 ก.ค. 63 เฉพาะเครื่องดื่มเมนูที่ร่วมรายการ ขนาด 12 ออนซ์ เท่านั้น

บรรยากาศร้าน THE COFFEE CLUB THAILAND

All-Day Dining and More สาขา Hyatt Regency (สุขุมวิท 13 ) ติดรถไฟฟ้า BTS นานา หรือ อโศก

รายละเอียดเพิ่มเติม

https://www.facebook.com/thecoffeeclubthailand/

ร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่กาแฟนะจ๊ะ หิวปุ๊บนึกถึง The coffee club ได้เลย แล้วเพื่อนๆจะติดใจ กลายเป็นร้านประจำเหมือนพิม 😊

#TheCoffeeClubThailand

#TheCoffeeClub

#Pimcpk

รีวิวร้าน Garaku Thailand สาขาสามย่าน (จุฬาซอย11)

วันนี้พิมซีพีเคจะพามาทาน ข้าวแกงกะหรี่แบบใหม่ ที่ร้าน Garaku (กะระคุ) Thailand

ร้านนี้เค้ามี 2 สาขา มีที่สุขุมวิท39 กับ จุฬาซอย11 แถวสามย่าน พิมมาสาขาสามย่าน ร้านน่ารักมากๆตกแต่งร้านสดใสมาก แพดานโปร่ง ตกแต่งได้ทันสมัย น่านั่งน่าแฮงค์เอ้าท์

ร้านมี 2 ชั้น ใครต้องการความเป็นส่วนตัว ด้านบนเหมาะแก่การนั่งเมาท์มอยมากค่ะ 55..

ประวัติเล็กๆของทางร้าน Garaku

เมื่อวัยเยาว์คุณฟูกุ ต้องทำงานเลี้ยงชีพตัวเองตั้งแต่เรียนมัธยม จึงตัดสินใจเข้าทำงานร้านแห่งหนึ่งเพื่อฝึกฝนศาสตร์การทำอาหารญี่ปุ่น และได้ค้นพบว่าชอบทานแกงกระหรี่เป็นชีวิตจิตใจ จึงมุ่งมั่นทำงาน เก็บหอมรอมริบ สร้างร้านของตนเอง จึงเกิดร้านซุปคาเร หรือซุปแกงกระหรี่ ที่มีแบรนด์ชื่อว่า Garaku คุณฟูกุ ฝ่าฟัน และใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมเรียนรู้การทำอาหารมา ทำให้ร้านประสบความสำเร็จ เป็นร้านชื่อดัง สูตรต้นตำรับเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

ต่อมาคุณคมสัน และคุณอัมพร ตั้งถิรสุข เจ้าของกิจการบริษัททัวร์เอ๊าท์บาวด์โฮลเซลส์เจ้าใหญ่เจ้านึงในประเทศไทย เป็นคนชอบสรรหาทานของอร่อยประจำท้องถิ่นในทุก ๆ ที่ และได้เดินทางไปยัง เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งร้าน Garaku ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก จึงไม่พลาดที่จะไปต่อคิวนาน เพื่อที่จะทานซุปคาเร พอทานเสร็จติดใจในรสชาติเป็นอย่างมาก มีความคิดที่อยากจะนำของอร่อยมาเป็นที่รู้จักมากขึ้น จึงได้ติดต่อคุณฟูกุเจ้าของแบรนด์ เพื่อติดต่อนำแบรนด์ขยายสาขาเข้ามาในเมืองไทย และทำให้มีแบรนด์ Garaku Thailand ซุปแกงกะหรี่เจ้าแรกในประเทศไทย มาถึงทุกวันนี้ปัจจุบันมีร้านทั้งหมด 2 สาขา สาขาสามย่าน และCiti Resort สุขุมวิท 39

เพื่อนที่ยังไม่รู้จัก ซุปคาเร (Soup Curry) มาทำความรู้จักกันก่อนเนอะ

Soup Curry (ซุปคาเร) อัตลักษณ์ อาหารยอดนิยมอันดับ 1 จากฮอกไกโด ซึ่งเป็นน้ำซุปใสไม่ใช่แกงกระหรี่ที่เราคุ้นเคย โดยนำวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารขนานแท้ ข้ามน้ำ ข้ามทะเล เสมือนบินไปทานที่ต้นตำรับที่ฮอกไกโด น้ำซุปคาเรสามารถเลือกความเผ็ดได้หลายระดับ ตั้งแต่ ระดับ 1 – 40 มีส่วนผสมของเครื่องเทศถึง 21-22ชนิด ทำให้มีกลิ่นหอม และมีส่วนผสมของน้ำซุปดาชิ หรือน้ำซุปปลาแห้ง ทำให้น้ำซุปมีรสชาติที่กลอมกล่อม ซดได้อย่างคล่องคอ

ทางร้านมีบอกวิธีทานด้วยนะ สุดยอด!!

วิธีทานรับประทานซุปแกงกระหรี่ให้อร่อย

1. ตักซุปเพื่อให้ลิ้นสัมผัสความอร่อยและรสชาติเข้มข้นของซุปแกงกระหรี่

2. บีบมะนาวที่มาในจานลงบนข้าว

3. ทานข้าวกับแกงแยกกัน ไม่ควรรวมในจานเดียว

4. ใช้ช้อนตักข้าวพอดีคำ แล้วนำไปจุ่มในซุปแกงกระหรี่

ซุปคาเรหมูตุ๋น (Pork Kakuni Soup Curry)

หมูสามชั้นที่ติดมันทางร้านมีการตุ๋นหมูยาวนานถึง 6 ชั่วโมง เปื่อยกำลังดี หมูนุ่มละลายในปาก เมนูนี้จึงเป็นเมนูสุดฮอตฮิตของไทย

ซุปคาเรไก่ (Chicken Soup Curry)

ซุปคาเรไก่ เนื้อไก่ใช้ส่วนของน่องไก่ชิ้นใหญ่ที่คัดคุณภาพมาเน้น ๆ เวลาที่ใช้ในการตุ๋น ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อความนุ่ม กินแล้วละมุน จะขายดีที่สุดสำหรับคนญี่ปุ่น

ทางร้านเค้ามีทั้งไก่และหมู ส่วนตัวชอบทั้ง2 ตัว หมูนี่นุ่มมาก ไก่ก็นุ่ม แล้วแต่ใครชอบอะไร ส่วนความเผ็ด พิมเอาเผ็ดระดับ 25 พิมว่าพิมยังเผ็ดได้อีก ทางร้านก็เอาเผ็ดระดับ 40 ใส่ถ้วยเล็กๆๆมาให้ชิม อันนี้ก็เกินไป 5555..

พิมว่าเผ็ดระดับ 30 น่าจะเหมาะกับพิม ใครที่ทานเผ็ดได้ควรลอง รสชาติดีไม่ได้เผ็ดจนทานไม่ได้ และไม่มีรสชาติขมให้เคืองลิ้นด้วยค่ะ เริ่ด!!

ข้าวชีส

ข้าวญี่ปุ่นที่ผสมขมิ้น โปะด้วยชีสแล้วเบิร์นไฟ เสริฟ์คู่กับเลมอนไปในจานเพื่อให้บีบ เมื่อทานคู่กับซุปคาเร จะได้ความรู้สึกอร่อยที่แปลกใหม่ไปอีกแบบ

อีกเมนูที่มาร้านนี้แล้วต้องลองนอกเนื้อจากซุปคาเร คือ

ข้าวหน้าเนื้อริบอาย (Gyu Don) อร่อยมากขอบอก!

เนื้อริบอายเกรดพรีเมี่ยม เนื้อนุ่มบางไม่เหนียว ผัดกับซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน ทานพร้อมข้าวญี่ปุ่นหุงกับขมิ้น หอมอร่อยอย่าบอกใคร มีกิมจิโฮมเมดอร่อย ๆ กินแกล้ม พร้อมกับไข่ออนเซ็น ละมุนลิ้น ฟินสุด ๆ

กิมจิ Homemade คิดดูขนาดกิมจิยังอร่อย แล้วอย่างอื่นจะไม่อร่อยได้ไง ^^

รสชาติของกิมจิ ที่ ไม่เปรี้ยวแหลม เค็ม เผ็ด กลมกล่อมแต่ไม่หวานโดด นอกจากนั้นรสสัมผัส

ของผักยังต้องกรอบ และสีสันสดใหม่ เราคัดผักสด ๆ คุณภาพดีสุด ๆ เหมือนทำกินเอง หมักด้วยวิธีเฉพาะของเรา ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่น้ำส้ม ใช้การหมักแบบธรรมชาติ ดีต่อร่างกายแน่นอน จะกินเป็นเครื่องเคียงก็ดี เอาไปผัดก็งาม ทำซุปกิมจิยิ่งอร่อยเหาะ

ข้าวหน้าเนื้อริบอาย SPICY ใครชอบทานเผ็ด เมนูนี้คือดี ทั้งเนื้อและรสชาติเข้ากันดีสุดๆ

เมนูใหม่ล่าสุดของทางร้าน เอาใจสายเผ็ด ซอสสไปซี่สไตล์กะระคุรสเด็ดที่ผ่านการคิดค้นมาแล้วจากพ่อครัวมากฝีมือของเรา รสเผ็ดแบบกำลังดี เนื้อริบอายแบบเนื้อ ๆ โปะบนข้าวขมิ้น เหลืองหอมสวยงาม

เมนูต้มๆเค้าก็มีนะ กิมจินาเบะหม้อไฟ

กิมจิโฮมเมด ทำเองแบบกะระคุ รับรองจะติดใจสูตรพิเศษจากเชฟมือทอง รสจัดจ้านพร้อมใส่เครื่องแน่น ๆ ซดน้ำร้อน ๆ คล่องคอ

ใครชอบเมนูสลัด แนะนำเลย ที่นี้เค้าเด็ดมากเรื่องซอส

สลัดปูนิ่ม (Soft Shell Crab Salad)

ปูนิ่มที่สดใหม่ นำไปชุปแป้งทอดกรอบ น้ำสลัดสูตรญี่ปุ่นสไตล์กะระคุ พร้อมผักสดกรอบ อร่อย ฟิน ตั้งแต่คำแรกเลยทีเดียว

สลัดปลาเงิน (Shirauo Salad)

เมนูสุดฮอตฮิตประจำร้าน “กะระคุ” ปลาเงินที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ปรุงรสด้วยความพิถีพิถันของเชฟของเรา จึงทำให้สลัดปลาเงิน อร่อย เคี้ยวเพลินจนหยุดไม่อยู่

เครื่องดื่ม พิมสั่งกาแฟเย็นโบราณ อร่อยดี ชอบ

มาคุยเรื่องขนม ที่นี่เค้าก็เด็ดเรื่องขนมด้วยนะ ยิ่งตัวชูครีมอร่อยสุดๆ พิมชอบไส้วนิลลา หอม กรอบนอกนุ่มใน ไส้ทะลัก ฟิน

Dessert

HOMEMADE สูตรพิเศษจาก Sim Recipe

ขนมสูตรพิเศษที่ได้เชฟจบจาก Cordon Bleuประเทศฝรั่งเศส และได้ทำงานเป็นเชฟใหญ่บนเรือสำราญที่ล่องเรือผ่านกว่า 100 ประเทศ เป็นผู้มีประสบการณ์การทำขนมมากกว่า 20 ปีที่ ซึ่งทางเชฟและเจ้าของแบรนด์ Sim Recipe รู้จักกันมาอย่างยาวนาน เป็นผู้ที่ชอบเดินทางท่องโลก จึงจำรสชาติและใช้ประสบการณ์จากการที่ได้ชิมขนมจากหลายประเทศ มาปรับสูตรและคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติขนมหวานที่อร่อย ละมุนอย่างลงตัว

CHOUX CREAM (วนิลา, ช็อคโกแลต)

ชูครีมไส้ทะลัก เน้น ๆ หอมหวาน แป้งโปฟิชูโร่สไตล์แป้งฝรั่งเศสแท้ ปกติแป้งของทางฝรั่งเศสจะมีความแข็ง แต่อยากให้เข้ากับสไตล์คนไทย และคนญี่ปุ่นจึงปรับแป้งให้นุ่มขึ้น และรสชาติหวานน้อย ละมุนกำลังพอดี หากใครได้ทานรับรองว่าตกเป็นทาสชูครีมอย่างไม่รู้ตัวแน่นอน

CHEESECAKE

ชีสเค้ก ออริจินอลชีส ดั้งเดิม french old style 100% เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานชีสหนัก ๆ ระยะเวลาอบนานเกือบครึ่งวัน อุณหภูมิต่ำ เนื้อแน่น ละมุน จะมีความเปรี้ยวจากชีส และฐานล่างเป็นคุกกี้กรัม ที่ทำเอง ตำและบดเอง ด้วยมือเท่านั้น

OPERA

เนื้อนุ่ม หอมช็อกโกแลตและกาแฟ เลเยอร์บัทเตอร์เค้ก เปิดข้างให้เห็นชั้นลวดลายสวยงาม

ดูหรูหราสุด ๆ ขนมตัวนี้แนะนำเหมาะสำหรับทานกับกาแฟร้อน ๆ

ROYAL DOUBLE CHEESE

ครีมชีส กับ มัสคาโปน ผสมผสานอย่างลงตัว นุ่มนวลอร่อยชวนฝันที่สุด เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานชีส แต่อยากได้ความรู้สึกถึงความเป็นเค้ก รสชาติละมุน และมีความหวานน้อย ส่วนฐานล่างของเค้กใช้คุกกี้กรัม ที่ทำเอง ตำและบดเอง ด้วยมือเท่านั้น

SWISS BROWNIE CHEESE

อร่อยเข้มข้นด้วย Brownie dark choc เข้มข้น 70% บน dark chocผสานครีมชีส ได้รสหนักแน่นมีรสนิยมสุด ๆ ฐานล่างของเค้กใช้คุกกี้กรัม ที่ทำเอง ตำและบดเอง ด้วยมือ จะเป็นที่นิยมของคนที่ชอบทานช็อกโกแลต

มาถึงตรงนี้ ก็น่าจะสรุปได้ว่า ร้านนี้ต้องมา ร้านสวย อาหารอร่อย ไม่มาถือว่าผิดนะจ๊ะ สะดวกสาขาไหนก็ไปกันได้เลย

รายละเอียดเพิ่มเติม

ร้าน Garaku Thailand

สาขาสามย่าน จุฬาซอย11

MRT : สถานีสามย่าน ทางออก2

สามารถสั่งอาหาร Delivery ได้ที่ FB : GarakuThailand / Sim Recipe inbox http://m.me/GarakuTH, Lineman, Get และ Food Panda หรือ เบอร์ติดต่อ 095-515-545

#garakuthailand #hokkaidosoupcurry #simrecipe #Pimcpk

รีวิวร้านอาหาร เรือนนพเก้า สาทรซอย6 อาหารไทยต้นตำรับ ชาววัง

ร้านเรือนนพเก้า (Ruen Noppagao) ร้านอาหารไทยต้นตำรับ ชาววัง ที่บางเมนูหาทานได้ยากมาก และขอบอกอร่อยทุกจาน รังสรรค์โดยเชฟปิ๊ก คณิน สินพันธ์ เชฟฝีมือดี ที่ผ่านการแข่งขันในรายการ เชฟสุดขั้ว ครัวสองโลก

และเชฟปิ๊ก ยังได้รับรางวัลเหรียญทอง TICC 2 ปีซ้อนจาก TICC, Thailand International Culinary Classic Thai Cuisine จึงเป็นเครื่องการันตีถึงฝีมือการทำอาหาร ว่าต้องอร่อยแน่นอน จนต้องกลับมาทานซ้ำๆ

ร้านเรือนนพเก้า ร้านใหม่แกะกล่องย่านสาทร อีกหนึ่งร้านอาหารของเครือ บริษัท ครัวการบินกรุงเทพ จำกัด (Bangkok Air catering – BAC) ซึงธุรกิจร้านอาหาร ของเค้ามีแต่ดังๆทั้งนั้น ตั้งแต่ร้านอาหาร Brasserie 9 ซึ่งเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม ร้านอยูข้างๆร้านเรือนนพเก้าเลย หรือจะเป็นร้านอาหาร Al Saray ซึ่งเป็นร้านอาหารเลบานีสและอาหารอินเดีย การันตีความอน่อยทุกที่

บรรยากาศภายในร้านเรือนนพเก้า กว้างขวาง สะอาดตา โซฟานั่งสบาย ที่ร้านมี 2 ชั้นนะคะ สามารถจัดปาร์ตี้ จัดงานเลี้ยงได้อย่างสบายๆ ไม่อึดอัด

มาถึงในส่วนของอาหาร วันนี้พิมทาน signature dishes ของทางร้าน อาหารแนะนำที่มาร้านนี้ต้องลอง

“9 สิ่งมหัศจรรย์ของเรือนนพเก้า (Ruen Noppagao’s signature dishes)” แค่ได้ฟังชื่อก็ตื่นเต้นที่จะได้รับประทาน

เริ่มจากเมนูแรก

ขนมเบื้องสุโขทัย ราคา 220 บาท

(Kanom Bueng Sukhothai) – Northern dish Sukhothai crispy pancake with cucumbers and shallots in sweet vinegar sauce

ขนมเบื้องแป้งบางกรอบ สอดไส้เครื่องแน่นๆรสชาติกลมกล่อม สูตรตำรับจากบ้านนายแพทย์ประเสริฐ ปราสาททองโอสถ เมนูทานเล่นที่อร่อยไม่ใช่เล่น และด้วยที่มาที่ไปของสูตรที่ทำให้ร้องว้าว ทางร้านจึงยกเมนูนี้ขึ้นมาเป็น หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของทางร้านเรือนนพเก้า

เมนูที่สอง หมี่กรอบพระพุทธเจ้าหลวง ราคา 280 บาท

(Mee Grob Rama 5) – Central dish Crispy rice noodles with diced prawns, chicken and tofu in sweet & sour sauce

เนื่องจากเมนูนี้เป็นอาหารทรงโปรดของในหลวงรัชกาลที่ 5 และเชฟได้นำสูตรนี้มาจากต้นตระกูลบุนนาค เนื่องจากเชฟได้เป็นนักเรียนอยู่ที่ศาลาริมน้ำ ของโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ลมาก่อน เมนูพิเศษนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูไม่ควรพลาดเมื่อได้มาชิมอาหารที่เรือนนพเก้า

เมนูที่สาม กุ้งซ่อนกลิ่น ราคา 350 บาท

(Goong Sorn Klin) – Central dish River prawns with Thai herb salad

เมนูนี้ได้มาจากท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ และเป็นผู้หญิงท่านแรกได้เขียนตำรับเมนูอาหารไทยขึ้น คือ ตำรับแม่ครัวหัวป่าก์ ซึ่งได้นำกุ้งแม่น้ำมาเคล้ากับน้ำมะนาว แล้วทำให้สุกคนโบราณจะเรียกว่า การทำน้ำสะเออกุ้ง หลังจากนั้นนำมาเคี่ยวกับมันกุ้งให้สุก แล้วปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมะนาว น้ำตาล และนำมายำด้วยหอมแดงไทยซอย พริกชี้ฟ้าเส้น กระเทียมดองซอย ถั่วลิสง สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ ส้มซ่า เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวตังและกลีบกุหลาบมอญออร์แกนิคจากจังหวัดเชียงราย

เมนูที่สี่ แกงจืดลูกรอก ราคา 350 บาท

(Gang Jued Loogrok) – Central dish

Egg sausage consommé

เชฟนำเอาหอมหัวใหญ่ แครอท ฟักทอง โคนต้นหอม แตงกวา และอกไก่นำมาปั่นรวมกันหลังจากนั้นเอาไปต้มด้วยไฟอุ่นและปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว หลังจากนั้นนำมากรองด้วยผ้าขาวบางจะได้น้ำซุปสีเหลืองทองและเสิร์ฟพร้อมกับไส้กรอกไข่หรือคนโบราณจะเรียกว่า ลูกรอก

เมนูนี้เพิ่งเคยทานเป็นครั้งแรก อร่อยมากจริงๆ เพื่อนๆถามพิมว่า ตอนเด็กๆไปอยู่ไหนมา ถึงไม่เคยกิน 5555..

เมนูที่ห้า กะปิคั่วผักสด ราคา 250 บาท

(Gapi Kua Phuk Sod) – Central dish

Shrimp paste relish in coconut cream, served with local vegetables

ส่วนประกอบหลักที่สำคัญเลยในเมนูนี้ คือ พริกแห้งบางช้าง ซึ่งเชฟได้นำมาแช่น้ำแล้วเลาะเม็ดพริกออกให้หมดหลังจากนั้นนำมาโขลกให้เป็นเนื้อเดียวพร้อมกับส่วนผสมที่เตรียมไว้ แล้วนำไปผัดกับหัวกะทิให้แตกมันและปรุงรสชาติตามแบบฉบับของทางร้านเรือนนพเก้า

เมนูที่หก แกงนพเก้า ราคา 380 บาท เมนูนี้แนะนำมากมาก คืออร่อยมากจริงๆๆๆ มาร้านนี้แล้วมาทานแค่นี้เมนูนี้กับข้าวกล้องสามสี ก็คุ้มแล้ว เชื่อพิม!!

(Gaeng Noppagao) – Central dish

Noppagao prawn curry with nine vegetables

เป็นแกงที่ขึ้นชื่อของร้าน เนื่องจากมีชื่อที่สอดคล้องกับชื่อร้าน และยังเป็นแกงที่อยู่ในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ที่ภรรยาของขุนไกรแกงให้สามีรับประทานก่อนที่จะไปออกรบ และแกงนพเก้านี้มีส่วนผสมของผัก 9 ชนิด ประกอบด้วย หน่อไม้สด ถั่วฝักยาว แตงกวา ผักบุ้งไทย มะเขือยาว พริกหยวก ชะอม สตอแกะ ยอดข้าวโพดอ่อน

เมนูที่เจ็ด ข้าวคลุกรัชกาลที่ ๖ ราคา 280 บาท

(Khao Kluk Rama 6) – Central dish

Fried rice with pork fat, egg yolk and chilli oil dressing, served with sun-dried snakehead fish and vegetables

เป็นเมนูที่ได้รับจากตำรับโบราณมีความคล้ายคลึงกับข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ แต่ส่วนที่แตกต่างกันตรงข้าวที่เราจะนำข้าวไปผัดกับน้ำพริกเผา ไข่แดงเค็ม และน้ำมันหมู เสิร์มาพร้อมกับ หมูหวานต้มน้ำมะพร้าวอ่อน ไก่ผัดกระเทียม ปลาช่อนแดดเดียวทอด ไข่เค็ม แตงกวา มะม่วงเปรี้ยว และพริกไทยอ่อน เป็นการรับประทานผสมผสานแบบคนไทยโบราณทำให้เกิดมิติของอาหารได้เพิ่มมากขึ้น

เมนูที่แปด ทองโบราณ ราคา 250 บาท

(Thong Boran) – Central dish

Ancient recipe Thai almond paste dessert

ขนมชนิดนี้ได้ค้นคว้ามาจากตำรับของท้าวทองกีบม้า ซึ่งได้ประดิษฐ์ขึ้นในสมัยนั้นทางร้านเรือนนพเก้าได้นำกลับมาเล่าเรื่องราวให้ลูกค้าที่มาใช้บริการได้ลองลิ้มชิมรส แล้วจะติดใจในความหอมและความอร่อย

เมนูที่เก้า ขนมโคน้ำกะทิ ข้าวพองไรซ์เบอรรี่

ราคา 180 บาท

(Kanom Ko Kati) – Central dish

Caramel coconut dumplings in coconut milk, topped with crispy riceberry

เมนูนี้เป็นเมนูที่ได้รับรางวัลชมเชย จากการแข่งขันการทำอาหารในงาน RICE PLUS AWARD 2018 และเมนูนี้เป็นขนมหวานพื้นถิ่นทางภาคใต้และได้นำมาดัดแปลงให้ทันสมัยเพิ่มมากขึ้นแต่ยังคงความเป็นอัตลักษณะของทางภาคใต้ไว้จึงทำให้เกิดเมนูนี้ขึ้นมา

ขนมหวานอื่นๆ ก็หอมและอร่อยรสชาติไม่หวานจนเกินไป

ประทับใจทุกเมนูจริงๆ ยิ่งได้ดื่มคู่กับชาภุมรินทร์ถวิลหา ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ชาถวายตัว เป็นชาที่นางข้าหลวงในสมัย รัชกาลที่ 5 ต้องดื่มก่อนการถวายตัว เพื่อช่วยในเรื่องการหมุนเวียนของโลหิต และช่วยขับเหงื่อ ที่ว่ากันว่าจะขับออกมาพร้อมกลิ่นหอมของดอกไม้ในชาที่ดื่มเข้าไป กลิ่นชาหอมรัญจวนใจมาก

นอกจากเมนูที่ได้กล่าวมาในข้างต้น ทางร้านก็ยังมีทีเด็ดที่มัดใจลูกค้า อย่างเช่น ข้าวของทางร้านได้พิถีพิถันหุงอย่างดี มีทั้ง ข้าวกล้องสามสี ราคา 40 บาท หรือ จะเป็นข้าวสวยหุงน้ำมะพร้าวอ่อน ราคา 40 บาท ขนาดพริกน้ำปลาของที่ร้านยังอร่อย อยากจะห่อกลับบ้านจริงๆ

เครื่องดื่มแนะนำ

อัสดง ราคา 190 บาท

ชาไทยทรงเครื่อง ราคา 190 บาท

เมนูที่พิมซีพีเคได้แนะนำในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของไฮไลทางร้าน ถ้าอยากจะลองเมนูชาววัง ทางเรือนนพเก้ายังมีอีกหลากหลายเมนูให้เลือก ลองมาชิมกันดูแล้วจะรู้ว่าพิมไม่ได้บรรยายเวอร์ไปแต่อย่างไรนะจ๊ะ

ร้านอาหาร : เรือนนพเก้า

พิกัด : สาทร ซอย 6 แขวง สีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

เบอร์โทร : 02 116 3317

Facebook: https://www.facebook.com